"จตุพร-ทนายนกเขา" ต้าน สหรัฐ จี้ "ประยุทธ์" รับผิดชอบ ชักศึกเข้าบ้าน

"จตุพร-ทนายนกเขา" ต้าน สหรัฐ  จี้ "ประยุทธ์" รับผิดชอบ ชักศึกเข้าบ้าน

"จตุพร-ทนายนกเขา" อ่านแถลงการณ์กลาโหม ก่อน นายกฯ ให้การต้อนรับ รมว. กห.สหรัฐฯ ย้ำในฐานะคนไทย ไม่อาจต้อนรับได้ จี้ ประยุทธ์ รับผิดชอบ ชักศึกเข้าบ้าน พาไทยเข้าสงคราม

วันที่ 13 มิ.ย.ที่บริเวณสี่แยกสะพานช้างโรงสี หลังกระทรวงกลาโหม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ ต่อต้าน การลงนามในบันทึกข้อตกลงยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ร่วมกับสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2562  ซึ่งเป็นการพาไทยเข้าสงคราม  ก่อนที่ ในเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  มีกำหนดการณ์ ให้การต้อนรับ นาย Lloyd J. Austin III ( ลอยด์ เจ. ออสติน ที่สาม )  รมว.กลาโหมสหรัฐฯ และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนไทย อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกลาโหม ที่ ศาลาว่าการกลาโหม 

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เริ่มทำการปราศรัยถึงวัตถุประสงค์ของการทำกิจกรรม  และนำแผ่นป้ายที่มีข้อความว่า Get Out USA , No Indo-Pacific , ประยุทธ์ ตอบหน่อย ทำไมต้องเอาประเทศไทยเข้าไปร่วมปกป้องไต้หวัน มาวางบริเวณหน้ารั้วเหล็กกั้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.สำราญราษฎร์ สน.พระราชวัง และสน.ชนะสงคราม ร่วมกับดูแลความสงบเรียบร้อย 

เวลา 14.20 น. นายจตุพร กล่าวว่า  วันนี้ที่มาคุยกันในกระทรวงกระโหม เอาคนปัญญาอ่อนมาคิด ก็คิดไม่ได้ว่าจะมาคุยกันเรื่องเศรษฐกิจ  พร้อมย้ำว่า สหรัฐ กำลังลากไทยเข้าสู่สงคราม ตามหลักการศัตรูของอเมริกาก็คือศัตรูของไทย  ทั้งที่ไทยไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร  อยากให้พลเอกประยุทธ์ กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม และหลังประเทศไทยยินยอมให้สหรัฐอเมริกามาสร้างสถานกงสุลที่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้หัวแม่เท้าคิด ก็ทราบว่าเกี่ยวข้องกับสงคราม  วันนี้ คนไทยกำลังลั้นลา อยู่ ไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิด  ทั้งนี้ก่อนลงนาม รัฐบาลไม่มีการทำประชามิติ เพื่อถามคนไทยว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะไปเข้าร่วมในการก่อสงคราม ซึ่งสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าไทยต้องเข้าร่วมในการปกป้องใต้หวันหากรบกับจีน พร้อมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ต้องออกบอกว่าข้าพเจ้าทำโดยพละการ และประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ ว่าใครเป็นคนขายชาติ ว่าใครชักศึกเข้าบ้าน  

“วันนี้การต้อนรับ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ก็เป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ตนเองในฐานะคนไทย ไม่อาจยอมรับในการต้อนรับรัฐมนตรีกลาโหมคนนี้ได้ เพราะเป็นตัวซวย เข้าประเทศไหนก็ชิบหายประเทศนั้น ดังนั้นการเข้ามาประเทศไทย ถือเป็นการชักสึกเข้าประเทศ และถือเป็นหายนะภัย และมองว่า วันนี้ หวังพึ่ง ส.ส.ในการทำหน้าที่ไม่ได้แทนที่ ส.ส.จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่กลับไม่มีใครพูดถึง และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ใน ดังนั้น เมื่อหวังฝากอนาคตไว้กับใครไม่ได้ ก็ต้องฝากอนาคตไว้กับคนไทย”นายจตุพร กล่าวและว่า 
   
ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยควรเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ไม่ใช่ควรเป็นประเทศที่ก่อสงคราม และคนไทยไม่สามารถที่จะเข้าไปร่วมฆ่าฟันกับใครได้ เช่น หากสงครามเกิดขึ้นระหว่างจีนกับใต้หวัน หรือสงครามหากเกิดขึ้นในประเทศพม่า ก็ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย แต่ข้อตกลงของสหรัฐฯ ศัตรูของอเมริกาคือของไทย ศัตรูของไทยคือเมกา ทั้งนี้จึงเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ต้องยกเลิกสัญญา อินโด-แปซิฟิก ที่ลงนามไปตั้งแต่ 17 พ.ย.2563 และฝากไปถึงนายลอย รมว.กลาโหม สหรัฐฯ ว่าลอยมาทางไหน ให้ลอยกลับไปทางนั้น เข้าประเทศไหนชิบหายประเทศนั้น  คนไทยไม่สามารถยอมรับรัฐมนตรีกลาโหมที่มาวันนี้ได้ แต่วันนี้จะไม่ต้องการเข้าไปทำลายบรรยากาศในการต้อนรับ และยืนยันที่ทางกลุ่มจะเดินหน้าหยุดยั้งอเมริกา

จากนั้น 14.50 น. ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ได้หยุดการปราศรัยชั่วคราว ตามที่ได้ตกลงกับทางกลาโหมไว้ ซึ่งเป็นช่วงที่ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสหรัฐ เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม 

เวลา 15.10 น. ได้กลับมาทำกิจกรรม
โดยนายจตุพร ได้อ่านแถลงการณ์  สื่อสารถึงรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ คือ 1.กลุ่มรับรู้ถึงเกียรติประวัติผลงานอันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของท่าน และประเทศของท่านพอสมควร ขณะเดียวกันเราต้องรับรู้ถึงความโศกเศร้า ความเจ็บปวด การสูญเสียของประชาชน  การล้มสลายของหลายประเทศไปพร้อมกันในการปฏิบัติการของท่านและประเทศของท่าน เราจึงมีความกังวลต่อการมาของท่านในครั้งนี้

2. การที่ผู้นำของท่านฉวยโอกาสนำชื่อประเทศไทยของเราไปกล่าวอ้างในโอกาสต่างๆโดยอาศัยบันทึกข้อตกลงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิค ซึ่งเป็นบันทึกข้อตกลงที่พวกเราไม่ยอมรับนั้น เป็นการสร้างศัตรูให้กับประเทศไทย เป็นอุปสรรคอันสำคัญ ทั้งทำให้เกิดข้อสงสัย ความไม่วางใจ ต่อมิตรประเทศต่างๆ ของประเทศไทย

และ3. เราทราบดีว่า สหรัฐอเมริกาเป็นมิตรกับประเทศไทยในลักษณะที่ใช้เราเป็นเครื่องมือเป็นแหล่งกอบโกยทรัพยากร เป็นพื้นที่เพื่อขยายอิทธิพลในแถบเอเชีย เพื่อการติดตั้งขีปนาวุธและไซเบอร์ อันเป็นประโยชน์ฝ่ายเดียวของสหรัฐอเมริกา แต่เราขอบอก อย่างหนักแน่นต่อท่านและสหรัฐอเมริกาว่า ประเทศไทยของเราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตประชาชนไทยทั้งปวง และเราพร้อมต่อสู้ศัตรูเสมอเพื่อปกป้องประเทศไทย

ด้านนายนิติธร  กล่าวว่า จากนี้กลุ่มจะเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าวอย่างเข้มข้น และใช้วิธีการที่หลากหลายโดยเป้าหมายคือที่ สถานทูตสหรัฐอเมริกา และอีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญ คือ  กลุ่มจะเคลื่อนไหวในประเด็นพลังงาน เพื่อทวงคืนพลังงาน ให้กลับมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง 

ทั้งนี้ กลุ่มได้ยื่นเอกสารแถลงการณ์ ผ่านตัวแทนศูนย์รับเรี่องราวร้องทุกข์ กระทรวงกลาโหม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ก่อนที่แกนนำประกาศยุติกิจกรรมในเวลา 14.50 น.