ฟ้องศาล ปค.เอาผิด กกต.ไม่ลงดาบผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.” ติดป้ายหาเสียงผิด กม.

ฟ้องศาล ปค.เอาผิด กกต.ไม่ลงดาบผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.” ติดป้ายหาเสียงผิด กม.

“ศรีสุวรรณ” เดินหน้าฟ้อง “ศาลปกครอง” เอาผิด “กกต.” ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ลงดาบผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.” ติดป้ายหาเสียงผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2565 ที่ศาลปกครองกลาง ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ กรณีปล่อยให้ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ติดป้ายหาเสียง ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยไม่บังคับให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการที่มีการแข่งขันหาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. 2565 ปรากฏว่า มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. 31 คน และผู้สมัคร ส.ก. อีก 382 คน ต่างระดมสรรพกำลังในการโฆษณาติดแผ่นป้ายหาเสียงกันอย่างมาก โดยอาจไม่คำนึงถึงการที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2563 และประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดสถานที่ปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การติดแผ่นป้ายหาเสียงของผู้สมัครจำนวนมาก ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศดังกล่าว ซึ่งสมาคมฯได้ร้องเรียนหรือแจ้งไปยัง กกต.และกกต.กทม.แล้ว แต่ก็ยังพบการฝ่าฝืนติดแผ่นป้ายหาเสียงในพื้นที่ห้ามติดอยู่ตลอดเวลา อาทิ ติดตั้งบริเวณเกาะกลางถนน สะพานลอยเดินข้าม รั้วและแผงเหล็กริมถนน ป้ายจราจรและสัญญาณไฟจราจร ศาลาที่พักผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบภายในระยะ 10 เมตร สวนหย่อม สวนสาธารณะ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีผู้สมัครหลายรายปิดประกาศ หรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งนอกพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ตนสมัคร ข้ามจังหวัดเลยก็มี รวมทั้งการติดป้ายขวางทางเดินเท้า ทางสัญจรของประชาชน และยังปล่อยให้ป้ายหาเสียงตกหล่น พัง ล้ม ขวางการจราจร โดยผู้สมัครไม่ไปดูแลแต่อย่างใด อันทำให้บ้านเมืองสกปรกรกรุงรัง เป็นที่น่าอับอายชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวพบเห็น แม้ระเบียบ กกต.จะให้หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจสั่งผู้สมัครให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ผู้มีอำนาจข้างต้นมีอำนาจรื้อถอน ทำลาย ปลดออกได้หรือสั่งให้หน่วยงานอื่นดำเนินการ โดยให้คิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัครนั้น และคณะกรรมการอาจนำมาเป็นเหตุในการสืบสวนหรือไต่สวนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาดได้

“การเพิกเฉยต่อระเบียบหรือกฎหมายดังกล่าว ถือว่ามีความผิดตามพรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ม.132 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่เป็นไปตามที่กกต.หรือผู้ซึ่งกกต.มอบหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายศรีสุวรรณ กล่าว