ธนารักษ์ ออกมาตรการช่วย ผู้เช่าที่ราชพัสดุ ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

'กรมธนารักษ์' ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย 'น้ำท่วมภาคเหนือ' จากสถานการณ์ 'พายุวิภา' เคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบน และภาคเหนือตอนบน ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้เช่าที่ราชพัสดุได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ ขอส่งกำลังใจและแสดงความห่วงใยต่อผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเลย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากฝนตกหนักหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้เช่าที่ราชพัสดุ โดยออกมาตรการให้ความช่วยเหลือ 'ยกเว้นการเก็บค่าเช่า' สูงสุด 2 ปี ดังนี้

1. กรณีผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย หากเสียหายบางส่วนให้ยกเว้นค่าเช่าเป็นเวลา 1 ปี เสียหายทั้งหลังให้ยกเว้นค่าเช่าเป็นเวลา 2 ปี โดยความเสียหายทั้งหลังให้พิจารณาจากสภาพอาคารที่พักอาศัยที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือโครงสร้างของบ้านเสียหายจนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ (ไม่รวมถึงกรณีที่น้ำท่วมทั้งหลัง แต่สามารถเข้าอยู่อาศัยภายหลังน้ำลดได้)

2. กรณีผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตร หากพืชหรือผลผลิตได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นเวลา 1 ปี โดยสามารถขอข้อมูลการรับรองความเสียหายจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด เป็นต้น

3. กรณีผู้เช่าอาคารราชพัสดุ และผู้เช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าตามข้อเท็จจริง จากการที่ไม่สามารถดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ในที่เช่าได้ โดยให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน (กรณีผู้เช่าอาคารราชพัสดุต้องไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติเป็นเวลาเกิน 3 วัน)

สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดของท่าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากกรมธนารักษ์