"เผ่าภูมิ" เร่งพลิกโฉม "ท่าเรือภูเก็ต" สู่ Hybrid Port ระดับโลก

“เผ่าภูมิ” เร่งพัฒนาที่ราชพัสดุ ตรวจ “ท่าเรือภูเก็ต” จ่อขยายหน้าท่า ขุดร่องน้ำลึก ดันเป็นท่าเรือ Hybrid รับเรือสำราญ ดันเศรษฐกิจอันดามันโต
วันที่ 2 มิ.ย. 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต ณ ที่ราชพัสดุ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 105 ไร่ โดยเน้นย้ำถึงแผนการพัฒนาให้ ท่าเรือภูเก็ต มีความพร้อมสูงสุดในการรองรับทั้ง เรือโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (Cruise) และการขนถ่ายสินค้าอย่างเต็มศักยภาพ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า จากเดิมที่ "ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต" ถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งสินค้าเป็นหลัก แต่ด้วยปริมาณสินค้าที่ลดลง สวนทางกับการเติบโตของ การท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความจำเป็นในการปรับโฉมท่าเรือครั้งใหญ่
"ปัจจุบันท่าเรือของเรายังมีข้อจำกัดเรื่องความลึกของร่องน้ำ ทำให้ไม่สามารถรองรับเรือ Cruise ขนาดใหญ่ได้โดยตรง และในฤดูมรสุมคลื่นลมแรงก็เป็นอุปสรรคต่อการเทียบท่า" นายเผ่าภูมิกล่าว
โดยกรมธนารักษ์ได้เดินหน้าโครงการปรับปรุง ท่าเรือภูเก็ต โดยมีแผนการพัฒนาที่สำคัญเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ดังนี้
1.ขยายหน้าท่า เพิ่มความยาวหน้าท่าอีก 535 เมตร จากเดิม 360 เมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเรือ
2.ขุดลอกร่องน้ำลึก วางแผนขุดลอกร่องน้ำให้มีความลึกถึง -10.5 เมตร และขยายแอ่งกลับลำเรือให้เหมาะสม เพื่อให้เรือ Cruise ขนาดใหญ่สามารถเข้าเทียบท่าได้อย่างสะดวกปลอดภัย
3.สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น ไฟส่องสว่าง อาคารผู้โดยสารที่ทันสมัย และติดตั้งอุปกรณ์ท่าเรือมาตรฐานระดับสากล เพื่อยกระดับการให้บริการและประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว
การปรับปรุงครั้งนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ ท่าเรือภูเก็ต เป็น ท่าเรือต้นทาง (Home Port) สำหรับเรือสำราญ และก้าวสู่การเป็น ท่าเรือแบบ Hybrid ที่เป็นทั้ง Marina Hub สำหรับเรือ Cruise ขนาดกลาง-เล็ก และเป็นท่าเรือแวะพัก (Port of Call) ที่สามารถรองรับเรือ Cruise ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียที่มีผู้โดยสารได้ถึง 4,900 คนต่อลำ
ทั้งนี้ โครงการนี้จะเปิดประมูลสรรหาผู้ลงทุนพัฒนา ท่าเรือภูเก็ต ในระยะเวลาการเช่า 30 ปี เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ
"การยกระดับ ท่าเรือภูเก็ต ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยพลิกโฉมการท่องเที่ยวทางทะเลของไทยให้กลับมาคึกคัก แต่ยังคาดว่าจะส่งผลดีอย่างมหาศาลต่อ เศรษฐกิจของภาคใต้ฝั่งอันดามัน ทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ และดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยมากขึ้น"







