'ไร่ดังในหัวหิน' รุกป่าแก่งกระจานและที่ราชพัสดุกว่า 3,900 ไร่

กรมอุทยานฯ ผนึกกำลังหลายหน่วยงาน ลุยตรวจสอบ "ไร่ดังในหัวหิน" พบการบุกรุกมหาศาล ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติและที่ราชพัสดุ ยืนยันเดินหน้าเอาผิดผู้บุกรุกเด็ดขาด
KEY
POINTS
- 'ไร่หุบผึ้ง' ถูกตรวจสอบพบว่าบุกรุกพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและที่ราชพัสดุ รวมเนื้อที่กว่า 3,952 ไร่
- การบุกรุกแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 1,392 ไร่ และในเขตที่ราชพัสดุอีก 2,728 ไร่
- เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัท ไทยสมบูรณ์ฟาร์ม จำกัด และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 15 ราย
- ปฏิบัติการตรวจยึดและดำเนินคดีเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ให้ปราบปรามการบุกรุกป่าอย่างจริงจัง
ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่! "ไร่ดัง" ในตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตกเป็นเป้าหมาย หลังคณะเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน นำโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าตรวจสอบและพบการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และที่ราชพัสดุรวมกว่า 3,900 ไร่ โดยมีบริษัท ไทยสมบูรณ์ฟาร์ม จำกัด เข้ามาเกี่ยวข้อง
อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงปฏิบัติการที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8-9 ก.ค. 2568 โดยระบุว่าการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้เข้มงวดกับการตรวจสอบและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าและทรัพยากรของรัฐ
มงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รายงานผลการตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่บุกรุกรวมทั้งหมดประมาณ 3,952 ไร่ 0 งาน 77 ตารางวา ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่
- พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน: พบการบุกรุกรวม 1,392 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ซึ่งในจำนวนนี้มีแปลง น.ส.3 ก. ถึง 25 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 1,143 ไร่ นอกจากนี้ยังมีแปลง ม.64 และพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกบุกรุกอีกจำนวนมาก
- พื้นที่ในเขตที่ราชพัสดุ (ปข.605): ตรวจพบการบุกรุกรวม 2,728 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา โดยเป็นแปลง น.ส.3 ก. ถึง 39 แปลง เนื้อที่กว่า 2,016 ไร่ และยังมีพื้นที่ที่ไม่ได้ซ้อนทับเอกสารสิทธิ์อีก 712 ไร่
จากผลการตรวจสอบ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายศิริโรจน์ และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท ไทยสมบูรณ์ฟาร์ม จำกัด รวมถึงบุคคลที่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินปัจจุบันอีก 15 ราย ในฐานความผิดร่วมกันบุกรุกพื้นที่ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562, พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484, พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562, พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช 2456 และประมวลกฎหมายที่ดิน
คดีนี้ได้มีการแจ้งความกล่าวโทษที่สถานีตำรวจภูธรหนองพลับ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2568 เวลา 20.20 น. โดยมี ร.ต.อ.สมโภช พรายงาม เป็นพนักงานสอบสวน
การเข้าตรวจยึดและดำเนินคดีในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและที่ดินของรัฐอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผืนป่าและสิ่งแวดล้อมอันเป็นสมบัติของชาติให้คงอยู่ตลอดไป และจะมีการเร่งดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
ภาพจาก : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช







