'ชัชชาติ' น้อมรับโพลผลงาน 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง

'ชัชชาติ' น้อมรับโพลผลงาน 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง

"ชัชชาติ" น้อมรับโพลผลงาน 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง เปรียบเหมือนรถป้ายแดง ถอยมาแล้วราคาตก มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การค้าสยาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงผลสำรวจ "นิด้าโพล" ที่สำรวจความพึงพอใจของคนกรุงเทพฯที่บริหารมาครบ 1 ปี โดยกว่าร้อยละ 50 ยังไม่พอใจว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใดๆ ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว และจะนำสิ่งที่ประชาชนคิดเห็นไปปรับปรุง เปรียบนักการเมืองก็เหมือนรถใหม่ วันแรกที่ถอยรถออกมาราคาปกติ จากนั้น ราคาก็ลดลง แต่ย้ำว่า จะนำความเห็นทุกอย่างไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องคุยกับรัฐบาลใหม่ด้วย โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพของประชาชน

"ไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดา พร้อมน้อมรับและนำมาปรับปรุงดีแล้วที่มีคนติ ถ้ามีคนชมอย่างเดียวเราไม่รู้จะปรับปรุงตรงไหน เราก็ต้องทำเต็มที่ คำติเหมือนเป็นแรงผลักดันของเรา ยิ่งกว่าคำชมอีก เรายิ่งต้องเปลี่ยนมาเป็นพลังบวกให้ได้ ก็ขอบคุณ 1 ปี เราทำเต็มที่แล้ว เชื่อว่าเราได้รับความร่วมมือหลายๆ ด้าน" นายชัชชาติ กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้วิเคราะห์ว่า คะแนนนิยมที่ลดลงมาจากสาเหตุใด แต่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาต่อการทำงาน ย่อมมีคนชอบและไม่ชอบ แต่ก็ได้มอบหมายให้ทีมงานแต่ละด้านไปวิเคราะห์จุดอ่อน และจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับ 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณผลสำรวจโพลที่ทำให้ทราบรายละเอียดที่ต้องแก้ไข

เมื่อถามถึงการรับมือฤดูฝนของกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ กล่าวว่า เชื่อว่าสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะได้ทำตามแผนการระบายน้ำและลอกท่อ รวมถึงโครงการหลายอย่างได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปบ้างแล้ว โครงการประตูระบายน้ำเสร็จไปแล้วร้อยละ 50 และเตรียมความพร้อมแบบชั่วคราวในการรับมือ ยอมรับว่าเป็นห่วงจุดก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ที่จะต้องไปดูว่ามีการกีดขวางทางระบายน้ำหรือไม่
 

ส่วนพื้นที่เสี่ยงในกรุงเทพมหานคร มีตรงจุดคลองเปรมประชากร, คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งถือเป็นครองหลัก โดยเฉพาะคลองลาดพร้าวที่มีการรุกล้ำพื้นที่เป็นจำนวนมาก ไปขุดลอกคลองลำบาก ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ ที่มีการเสนอโครงการระบายน้ำไปฝั่งตะวันออก ก็ยังอยู่ในแผน เนื่องจากมีเส้นทางยาว แต่ขณะนี้ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วเพื่อที่จะระบายน้ำไปยัง อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ให้ได้มากขึ้น

ขณะเดียวกันยืนยันว่า กว่า 500 จุดที่มีปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ จะนำมาเป็นบทเรียน จัดทำเป็นแผนที่ในการแก้ไขแล้ว พร้อมย้ำว่า อุโมงค์ระบายน้ำก็มีประสิทธิภาพอยู่ ที่ผ่านมาไม่ใช่ปัญหา แต่พบว่าน้ำไปไม่ถึงอุโมงค์ระบายน้ำ ดังนั้น จะต้องทำโครงการเส้นเลือดฝอยให้เข้มแข็ง ทั้งการดูแลปั้มสูบน้ำ การลอกท่อ ซึ่งจะต้องเข้มแข็งเพื่อไปสู่เส้นเลือดใหญ่

ส่วนการลอกท่อได้ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 3,000 กิโลเมตร ภายในปีนี้จะสามารถลอกท่อได้ 100% ประชาชนรับทราบน้ำมีการระบายได้เร็วขึ้น และย้ำว่า ใน 4 ปี ประชาชนจะได้เห็น 200 นโยบายที่ประกาศไว้ อาจจะมีบางข้อที่จะต้องปรับปรุง เนื่องจากไม่ทันสมัย แต่อาจต้องมาปรับปรุง ขณะเดียวกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าเว็บไซต์ที่ติดตาม 200 นโยบายจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นการติดตามงานได้มากขึ้น เพราะทุกเขตจะมีการรายงานทุกปัญหาเข้ามา

เมื่อถามถึง วันที่ 6 มิ.ย. ที่จะมีการหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ กล่าวว่า มี 17-18 ประเด็นในการหารือ ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าเป็นใครก็ตามที่เป็นรัฐบาล ก็ต้องหารือในประเด็นนี้ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรหลักในการเข้ามาสนับสนุนการทำงานในกรุงเทพฯ ทั้งใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนปลูกต้นไม้ การคมนาคมขนส่ง การจราจร สาธารณสุข สวนสาธารณะ บางเรื่องกรุงเทพฯ ไม่มีอำนาจเต็มโดยตรง

\'ชัชชาติ\' น้อมรับโพลผลงาน 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง