'JMART' แจ้งเพิ่มทุนใหม่เป็น1.54 พันล้าน -ออกหลักทรัพย์แปลงสภาพให้ PP เสริมแกร่ง

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)หรือ JMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2564 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 16,369 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 1,159,077,312 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,159,060,943 บาท

โดยการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 16,369 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 5(“JMART-W5”) เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท

อีกทั้ง มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2564เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัทอีกจำนวน 384,803,597 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 1,159,060,943 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 1,543,864,540 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 384,803,597 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1.00 บาท

เพื่อ(1) เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน (2) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (“JMART-W6”) ที่จัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และ (3) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิภายใต้โครงการJMART-W3 และ JMART-W4 ตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและผู้ถือใบแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 ตามลำดับ

นอกจากนี้ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2564เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 6 (“JMART-W6”) จำนวน 42,060,884 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย (ราคาเสนอขายต่อหน่วยเท่ากับ 0 บาท) ซึ่งคิดเป็นหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิจำนวน 42,060,884 หุ้น (ร้อยละ 4.07 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท) เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน

ได้แก่ (1) บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน)จำนวน 25,337,882 หน่วย และ(2) บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน)จำนวน 16,723,002 หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ JMART-W6 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ JMART-W6 ต่อ1 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ JMART-W6 จะมีวันครบกำหนดอายุไม่เกิน 3 ปี 9 เดือน นับแต่วันที่ออกและมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 30.3370 บาทต่อหุ้น 

บริษัทมีความประสงค์ที่จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนพร้อมกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท(JMART-W6) เพื่อใช้ในการลงทุน โดยการเพิ่มทุนให้บริษัทย่อยของบริษัทตามสิทธิ ได้แก่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ท เวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และใช้เป็นเงินทุนสำหรับการชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนให้แก่สถาบันการเงิน

ประโยชน์ที่ได้บริษัทจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ดังนี้ บริษัทสามารถระดมเงินทุนได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและลดภาระการลงทุนของผู้ถือหุ้นเดิมในการเพิ่มทุน ส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ตามเป้าหมาย และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาธุรกิจของบริษัทให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

"เมื่อเปรียบเทียบกับการเพิ่มทุนด้วยวิธีการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไป (Public Offering) ซึ่งได้ใช้ระยะเวลาในการเตรียมการค่อนข้างนาน และต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทและไม่สามารถควบคุมระยะเวลาได้แน่นอน ดังนั้น คณะกรรมการบริษัท จึงได้พิจารณาว่า การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่บุคคลที่มีศักยภาพทางด้านเงินทุน มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีความพร้อมในการชำระเงินเพิ่มทุน รวมถึงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท(JMART-W6) จึงเป็นแนวทางการระดมทุนที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับเงินทุนตามจำนวนที่ต้องการในระยะเวลาอันสั้น และสามารถลดความเสี่ยงในการระดมทุนที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจที่มีความผันผวนในปัจจุบัน

สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้  จะช่วยให้บริษัทสามารถลงทุนในการเพิ่มทุนให้บริษัทย่อยของบริษัท ตามสิทธิ และเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้แก่ฐานะทางการเงินของบริษัท โดยบริษัทสามารถชำระคืนหนี้บางส่วนให้แก่สถาบันการเงินได้ตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต

ส่วนประโยชน์ที่ได้ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ดังนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50.0 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษี และสำรองกฏหมาย โดยพิจารณาจากงบการเงินรวมเป็นสำคัญ โดยมติของคณะกรรรมการบริษัทที่อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจะต้องถูกนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่เป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งคณะกรรมการบริษัท มีอำนาจอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลได้ แล้วให้รายการให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นรับทราบในการประชุมคราวต่อไปได้ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ กระแสเงินสดของบริษัท และแผนการลงทุนของบริษัทและบริษัทในเครือในแต่ละปีตามความจำเป็น ความเหมาะสม และข้อพิจารณาอื่น ๆ ที่คณะกรรมบริษัทเห็นสมควร

ขณะที่สิทธิในการรับเงินปันผลจากดำเนินงานของบริษัทผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (JMART-W6) ในครั้งนี้จะมีสิทธิรับเงินปันผลจากการดำเนินของบริษัท เมื่อได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทและได้รับจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทแล้ว และบริษัทมีการประกาศจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ เป็นไปตามกฏหมายและกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

พร้อมกันนี้ บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2564 ในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. โดยเป็นรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ E-EGM และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2564(Record Date) ในวันที่ 9 กันยายน 2564