กังวลเฟดลด QE (19 ส.ค.64)

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มขนส่ง การเงิน และค้าปลีก

นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT, SCC, MTC เป็นการซื้อหุ้นที่ปรับตัวลงไปมาก คาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มีแรงขายในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,551.87 จุด +7.65 จุด +0.50% มูลค่าการซื้อขาย 81,902 ลบ.ต่างชาติ -875.06 ลบ. TFEX +6661 สัญญา ตราสารหนี้ -2,413.19 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ สหรัฐเตรียมฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ให้ชาวอเมริกันเดือนหน้าเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
+ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมงบกลางโดยปรับลดงบประมาณราว 20% หรือ 1.63 หมื่นล้านบาทไปไว้ที่งบกลาง เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาโควิด-19
+ททท.เตรียมเสนอเปิดเชียงใหม่รับตปท. 1 ต.ค.

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 382.59 จุด -1.08% หลังรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินQE ในปีนี้ ฉุดหุ้นร่วงลงเป็นวงกว้างรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลธ์แคร์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.13 ดอลลาร์ -1.7% ปิดที่ 65.46 ดอลลาร์/บาร์เรลต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2564 ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 กังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน บดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงกว่า 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
- รายงานประชุมเฟดชี้กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องปรับลดวงเงิน QE ปีนี้เมื่อพิจารณาจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นวงกว้างตามที่เฟดคาดการณ์ไว้
- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 7.0% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.534 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.60 ล้านยูนิต ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง
- สสว.รายงานดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีเดือน ก.ค.64 ปรับลดลงในทุกภูมิภาค ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 30.1 ต่ำที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล สะท้อนพิษโควิดฉุดเสถียรภาพเอสเอ็มอีตกต่ำ มาตรการควบคุมโรคกระทบธุรกิจต้องปิดตัว

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้อ่อนตัวลงหลังประธานเฟดสาขาดัลลัสและมินแนอาโพลิส รวมถึงรองประธานเฟดสนับสนุนให้ปรับลดวงเงิน QE ภายในปีนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นพลังงานเพิ่มเติม มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,537-1,557 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• Defensive Stock ADVANC TTW EASTW BGRIM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากWFH ADVANC DTAC TRUE DIF ITEL NETBAY YGG AS INSET

หุ้นรายงานพิเศษ

SMD – ซื้อ - “กำไร 2Q64 ดีกว่าคาด”

(ราคาเหมาะสม 16.60 บาท)

•รายงานกำไร 2Q64 ที่ 66 ลบ. เติบโต 725%QoQ และ 113%YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้เติบโตสู่ 329 ลบ. +113%QoQ และ +86%YoY โดยได้แรงหนุนจากสินค้ากลุ่มเวชบำบัดวิกฤต และกลุ่มการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการรักษาโรค COVID ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 40.6% ใน 1Q64 สู่ 42.1% ใน 2Q64 เนื่องจากสินค้าที่เติบโตมีความต้องการสูงช่วยหนุนให้ราคาจำหน่ายปรับตัวขึ้น ด้านอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 30.3% ใน 1Q64 สู่ 16.6% ใน 2Q64 เนื่องจากมีความต้องการในสินค้าสูง ทำให้ใช้งบการตลาดลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 2Q64 ที่ 66 ลบ. เติบโต 725%QoQ และ 113%YoY และรายงานกำไร 1H64 ที่ 74 ลบ. คิดเป็น 83%

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อรายได้และผลประกอบการในครึ่งปีหลัง 64 เนื่องจากมี Backlog ณ มิ.ย.64 แล้วกว่า 300 ลบ. และมีโอกาสเติบโตจาก 1)กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้อาคารสูงกว่า 8 ชั้นต้องมีเครื่องกระตุกหัวในอัตโนมัติ หรือ AED และ 2)มีการนำเข้าชุดตรวจ COVID แบบ Rapid test มาจำหน่ายซึ่งอยู่ระหว่างขออนุญาตจากภาครัฐ ทั้งนี้ จากผลประกอบการที่ดีกว่าที่เราคาดไว้และแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน เราจึงคงคาแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 16.6 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) IRPC ( ฺBloomberg Consensus 4.20 บาท) ประกาศโหมผลิตภัณฑ์โลกใหม่ ดันสัดส่วนกลุ่ม Specialty โตทะลุ 20% เพิ่มมาร์จิ้น เดินหน้าทำ M&A ธุรกิจเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูง, Well-Being ต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมี และการกลั่น คาด 5 ปี ใช้เงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ไม่เพิ่มทุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BEM ( ฺBloomberg Consensus 9.80 บาท) ศาลปกครองสูงสุด เปิดทางประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มใหม่ ด้านผู้ว่าฯรฟม.เดินหน้านัดประชุมคณะกรรมการมาตรา 36 ร่างหลักเกณฑ์ คาดประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุนปลาย Q3 ต้น Q4 ได้ผู้ชนะปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ใกล้เคียงโครงการสายสีม่วงใต้ นักวิเคราะห์คาดใช้เกณฑ์เทคนิค 30% BEM มีสิทธิ์คว้าสูง CK, STEC ได้งานด้วย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PR9 ( ฺBloomberg Consensus 12.00 บาท) “โรงพยาบาลพระรามเก้า” ส่งซิกไตรมาส 3/64 รายได้โต 2 หลัก หนุนกำไรพุ่ง อานิสงส์เข้าไฮซีซั่นธุรกิจ หนุนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนไตรมาส 4/64 แจ่ม! บุ๊กรายได้ค่าฉีดวัคซีนโมเดอร์นา 70,000 โดส มั่นใจรายได้ทั้งปี 64 โต 2 หลัก หลังเปิดอาคารใหม่ผู้ป่วยแห่ใช้บริการศูนย์เฉพาะทางเกินคาด (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IMH ( ฺBloomberg Consensus 14.95 บาท) เดิมเกมรุกเจาะตลาดก้าวสู่การเป็นผู้นำการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบครบวงจร ล่าสุดประกาศเปิดตัว “ชุดตรวจเชื้อโควิดแบบใหม่ด้วยน้ำลาย (Saliva Antigen Test Kit) ราคาขายชุดละ 365 บาท หวังหนุนรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 3/64 แตะ 250 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

18-20 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ2-3

สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

24 ส.ค. ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

25-27 ส.ค. ตลท.เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัส31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

19 ส.ค. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนส.ค.

20 ส.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

23 ส.ค. อียูและสหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต

สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.