LEO - ซื้อ (18 ส.ค.64)

LEO - ซื้อ (18 ส.ค.64)

ความร่วมมือ จีน-ไทย ผ่าน LEO กำลังจะเกิดขึ้น

Earnings momentum ยังไปต่อ

รายงานกำไร 2Q64 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 42 ล้านบาท (+127% YoY, +58%QoQ) ตามภาพรวมอุตสาหกรรมการขนส่งระหว่างประเทศที่เร่งตัวขึ้นอย่างมาก (ผลจากการ Re-stocking สินค้าทั่วโลก ตามที่เราเคยคาดการณ์ไว้) ขณะที่อุปทานเรือคอนเทนเนอร์ใหม่ยังไม่มีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ LEO จะยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่องใน 3Q64 งเป็นช่วง High season ของการขนส่งสินค้า รวมทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้จากความร่วมมือกับ China post ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-จีน ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเดิมว่าการ Re-stocking สินค้าทั่วโลกจะยังดำเนินไปต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2565 อย่างไรก็ดีปริมาณการขนส่งสินค้าอาจเริ่มชะลอตัวชั่วคราวลงใน 4Q64 ตามปัจจัยฤดูกาล

ความร่วมมือ จีน - ไทย ผ่านตัวกลางคือ LEO กำลังจะเกิดขึ้น

LEO จะเริ่มรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จีน-ไทย ตั้งแต่ 3Q64 ตามความร่วมมือทางธุรกิจกับทาง China post อย่างไรก็ดีข้อมูลจากที่ประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุด ในส่วนของการบริหารจัดการส่วนงาน E-commerce จะล่าช้าไปจากที่คาดการณ์ไว้เดิมเราจึงปรับสมมติฐานในส่วนนี้และคาดการณ์ว่าการบริหารจัดการส่วนงาน E-commerce จะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2565 แทน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการฯปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ

ล่าสุด LEO ประกาศความร่วมมือกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น (THPD) โดยอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างการทำธุรกิจร่วมกัน อาทิ การขนส่งวัคซีน การขนส่งสินค้า E-commerce ซึ่งเราประเมินว่ามีโอกาสที่จะเกิด Synergy กันระหว่างธุรกิจที่ LEO ทำการบริหารจัดการการขนส่งสินค้าระหว่างจีน - ไทย กับทาง China post ตั้งแต่ระดับ First mile (จากผู้ส่งสินค้า) ถึง Last mile หรือ ถึงมือผู้รับสินค้าปลายทางในอีกประเทศผ่านช่องทางกระจายสินค้าระหว่างทั้ง 2 องค์กร ซึ่งเรายังไม่รวมประเด็นนี้ในประมาณการฯ เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยโครงสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับทาง THPD แต่จะเป็น Upside ในอนาคตที่ต้องจับตามอง

ปรับประมาณการฯขึ้น สะท้อนอุตสาหกรรมฯดีกว่าคาด

เราปรับประมาณการฯปี 2564 - 65 ขึ้น +14.7% และ +26.9% เป็น 152 ล้านบาท และ 180 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเป็นการปรับปรุงสมมติฐาน
ปริมาณขนส่งสินค้าทั้งผ่านทาง Sea freight และ Air freight โดยปรับรายได้รวมปี 2564 - 2565 ขึ้นเป็น 1.9 พันล้านบาท (ปรับเพิ่ม +34%)
และ 2.1 พันล้านบาท (ปรับเพิ่ม +14%) ตามลำดับ และกำหนดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564 – 2565 แบบอนุรักษ์นิยมที่ 27.5% และ 27.1% ตามลำดับ (ลดลงจาก 29.3% ในปี 2563 เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ปรับสูงขึ้นมากในปี 2564)

แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าพื้นฐาน 15.1 บาท (เดิม 11.3 บาท)

เราประเมินราคาเหมาะสม LEO ได้เท่ากับ 15.1 บาท อิงวิธี DCF โดยกำหนดสมมติฐาน WACC 7 %, Terminal growth 3% ณ ราคาเป้าหมายดังกล่าวจะคิดเป็น Forward PE ปี 2564 = 35 เท่า และ Forward PE ปี 2565 จะลดลงเหลือ 27 เท่า จากการคาดการณ์กำไรปี 2565 โต +18% YoY