วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (3 ส.ค.64)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของจีน และสหรัฐฯ ปรับลด
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของจีน และสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. 64 ปรับตัวลดลง โดยดัชนีภาคการผลิตของจีนปรับลดลงแตะระดับ 50.3 จากระดับ 51.3 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 63 ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับลดลงแตะระดับ 59.5 จากระดับ 60.6 ในเดือน มิ.ย. 64
-/+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคเดือน ก.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 610,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับ มิ.ย. 64 มาอยู่ที่ระดับ 26.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 15 เดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปคยังคงปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง เดือน ก.ค. 64 อยู่ที่ระดับร้อยละ 115 ซึ่งนับว่ายังน้อยกว่าข้อตกลงอยู่
+ สหรัฐฯ ไม่ประกาศมาตรการล็อคดาวน์ หลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวิด-19 สายพันธุ์เดลตารอบใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ปรับตัวสูงขึ้นในหลายภูมิภาค ช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาค ประกอบกับการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในภูมิภาคยังคงจำกัดตามมาตรการปิดเมืองในภูมิภาค ท่ามกลางปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลง