พาณิชย์เคาะวงเงิน 5 พันล้านประเดิมตั้งกองทุนเอฟทีเอ

พาณิชย์เคาะวงเงิน 5 พันล้านประเดิมตั้งกองทุนเอฟทีเอ

พาณิชย์ เคาะเงินประเดิมกองทุนเอฟทีเอ 5 พันล้านบาท เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบการเปิดเสรีทางการค้า เปิด 2 แนวทางขอรับจัดสรรกองทุนทั้งจ่ายขาดและเป็นทุนหมุนเวียน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ ว่า ขณะนี้กรมฯ ได้จัดทำรายละเอียดข้อเสนอการขอตั้งกองทุนใกล้เสร็จแล้ว และคาดว่าจะเสนอให้คณะทำงานพิจารณาแนวทางการพัฒนากองทุนฯ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงพิจารณาได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยเบื้องต้นจะมีการขอใช้งบประมาณเพื่อใช้เป็นทุนประเดิมจัดตั้งกองทุนกว่า 5,000 ล้านบาท สำหรับใช้เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อเตรียมความพร้อม ปรับตัว และช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าในรูปแบบต่างๆ

 “ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องรายละเอียดแหล่งที่มารายได้ของกองทุนอยู่ ซึ่งจะมาจาก 2 ทาง ทางแรกเป็นทุนประเดิมจากรัฐที่จ่ายเพียงครั้งเดียว อีกส่วนจะนำมาจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดการค้าเสรีเข้ามาอุดหนุนกองทุน เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมจากการขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้เอฟทีเอ เพื่อให้กองทุนมีรายได้ต่อเนื่องทุกปีๆ ไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท แต่ค่าธรรมเนียมเหล่านี้เป็นส่วนที่เก็บอยู่แล้ว ไม่ได้มีการเก็บเพิ่มจากผู้ประกอบการแต่อย่างใด

 

สำหรับแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอ จะครอบคุลมภาคการผลิต ทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยการช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. เงินจ่ายขาด สำหรับการวิจัยพัฒนา การจัดหาที่ปรึกษา การฝึกอบรม กิจกรรมที่สนับสนุนการตลาด 2.เงินหมุนเวียน เช่น เงินลงทุนในสิ่งก่อสร้าง และค่าเครื่องมืออุปกรณ์ พร้อมกับมีหน่วยงานกลางของรัฐ เข้าไปประสานงานและเสนอคำขอรับความช่วยเหลือไปยังหน่วยบริหารกองทุน

นางอรมน กล่าวว่า หากได้รับการเห็นชอบจาก รมว.พาณิชย์แล้ว ตามขั้นตอนจะต้องเสนอเรื่องการตั้งกองทุนเอฟทีเอต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ที่มี รมว.คลังเป็นประธาน และหากผ่านความเห็นชอบในหลักการ กรมฯ จะนำร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งกองทุนเอฟทีเอเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ ก่อนเสนอ ครม.และรัฐสภา ให้พิจารณาออกกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้แนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ เป็นเสียงเรียกร้องจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคเกษตรเพื่อให้มีกลไกช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอ ให้สามารถปรับตัวรับมือกับการแข่งขันในตลาดการค้าเสรีได้ อีกทั้งยังเป็นข้อแนะนำจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงซีพีทีพีพีของรัฐสภา ที่เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอด้วย