'เอบีบี' บุกตลาดออโต้บอท เข้าซื้อกิจการ 'ASTI' หวังเสริมแกร่งธุรกิจ

'เอบีบี' บุกตลาดออโต้บอท เข้าซื้อกิจการ 'ASTI' หวังเสริมแกร่งธุรกิจ

'เอบีบี' ประกาศเข้าซื้อกิจการ ASTI Mobile Robotics Group เพื่อร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมการทำงานของระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้ใช้ผ่านหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ พร้อมตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 สูงถึง 20%

เอบีบี (ABBN: SIX Swiss Ex) ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก บริการซอฟต์แวร์เชื่อมต่อ ไปจนถึงบริการด้านพลังงานไฟฟ้า หุ่นยนต์อัตโนมัติ และนวัตกรรมเคลื่อนไหวต่าง ๆ ซึ่งความสำเร็จของเอบีบีขับเคลื่อนโดยทีมงานมากฝีมือถึง 105,000 คนในกว่า 100 ประเทศ ล่าสุดประกาศซื้อกิจการ ASTI Mobile Robotics Group (ASTI) บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) ชั้นนำระดับโลก มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกเซกเตอร์

ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดหุ่นยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่าง ระบบเคลื่อนที่อัตโนมัติ หรือ Autonomous Mobile Robot (AMR) ซึ่งการซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมทัพและขยายสินค้าและบริการด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของ ABB ให้เป็นบริษัทเดียวที่สามารถนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในธุรกิจระบบอัตโนมัติ

162679832535

การเข้าซื้อกิจการนี้ เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตของ ABB ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในธุรกิจ Robotics และ Machine Automation ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุม และโดดเด่น สามารถขยายไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสมบูรณ์ในช่วงกลางฤดูร้อนปี 2564 แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับราคาซื้อขาย

ทั้งนี้ ASTI ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 มีสำนักงานใหญ่ในเมืองบูร์โกส ประเทศสเปน และมีพนักงานมากกว่า 300 คนในสเปน ฝรั่งเศส และเยอรมนี หุ้นส่วนใหญ่เป็นของ Veronica Pascual Boé ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ได้แก่ Keensight Capital นักลงทุนจาก European Growth Buyout ปัจจุบันเป็นบริษัทที่สนับสนุน AMR ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ โลจิสติกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และยาในกว่า 20 ประเทศ ตั้งแต่ปี 2015 บริษัทมีการเติบโตเกือบ 30% ต่อปี และตั้งเป้ารายรับไว้ที่ 50 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และตรียมเปิดโรงงาน ABB Robotics ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลาง AMR แห่งใหม่ในเอเชีย เพียบพร้อมทั้งระบบและการผลิตเต็มรูปแบบ

162679860223

Sami Atiya ประธานบริหารธุรกิจ Robotics & Discrete Automation ของ ABB กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมและความเชี่ยวชาญทางด้าน AMR ที่สามารถเชื่อมโยงหลายอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต ทำให้ ASTI เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่บริษัทสนับสนุนลูกค้าด้วยระบบอัตโนมัติที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ABB จะเป็นบริษัทเดียวที่นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบของ AMR หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติของเครื่องจักร ตั้งแต่การผลิต การขนส่งไปจนถึงการบริโภค นี่คือตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสำหรับลูกค้าของเรา ในขณะที่พวกเขาต้องปรับให้เข้ากับผู้บริโภคที่เป็นรายบุคคลและคว้าโอกาสที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆจากการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

"AMRs จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นของระบบ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง อินทราโลจิสติกส์ ไปจนถึงธุรกิจการค้าปลีกและธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะช่วยให้วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ABB และ ASTI สามารถช่วยลูกค้าแทนที่สายการผลิตในรูปแบบเดิม (Linear production) ในปัจจุบันด้วยระบบเครือข่ายที่ยืดหยุ่นเต็มรูปแบบ โดยที่ระบบอัจฉริยะของ AMR จะนำทางวัตถุ ชิ้นส่วน และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในแต่ละเวิร์กสเตชั่นที่เชื่อมต่อกันแบบอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นในโรงงาน ศูนย์การขนส่ง ห้องปฏิบัติการ ร้านค้า หรือในโรงพยาบาล อีกทั้งมีแผนที่จะขยายสู่การนำหุ่นยนต์ไปใช้เพิ่มผลผลิต โดยจะอยู่ในอุตสาหกรรมเป็นหลัก นอกเหนือจากการผลิตในรูปแบบเดิมๆ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมคลังสินค้า ที่สามารถนำ AMR เข้าไปซัพพอร์ตได้"

 

ด้าน Veronica Pascual Boé  ผู้บริหารสูงสุดของ ASTI กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของ ABB กับ ASTI นั้นเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากเราทั้งคู่ให้ความสำคัญในเรื่องของความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันของลูกค้าของเราผ่านการเร่งพัฒนาระบบอัตโนมัติในที่ทำงาน ซึ่งถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้น และเราจะร่วมกันเร่งพัฒนานวัตกรรม ขยายเครือข่ายพันธมิตร กำลังการผลิตและการดำเนินการ และด้วยแบรนด์ ABB จะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าและตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีมผู้บริหารด้าน Robotics และจะเป็นผู้นำธุรกิจ AMR เพื่อขับเคลื่อนแผนการเติบโตที่ยิ่งใหญ่นี้ของเรา”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMR ชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมของ ASTI ประกอบด้วยรถลากจูงอัตโนมัติ โซลูชั่นการหยิบจับสินค้าถึงบุคคล (Goods-to-person solutions) การหยิบจับและย้ายวัตถุ ไปจนถึงระบบซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การนำทางและการควบคุม การจัดการยานพาหนะและคำสั่งซื้อ รวมถึงระบบตรวจสอบย้อนกลับบนคลาวด์

โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำมารวมเข้ากับกลุ่มผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ เครื่องจักรอัตโนมัติ โซลูชั่นโมดูลาร์ และชุดระบบซอฟต์แวร์ของ ABB ซึ่งรวมถึง RobotStudio® โปรแกรมจำลองการทำงานและการเขียนโปรแกรมของ ABB  ซึ่งจะเป็นการสร้างโซลูชั่นสำหรับระบบอัตโนมัติที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าของ ABB

"ABB และ ASTI จะนำเสนอความเชี่ยวชาญเชิงลึกสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนในกลุ่มการเติบโตใหม่ ๆ รวมถึงโลจิสติกส์ อีคอมเมิร์ซ การค้าปลีก และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ แสดงว่าตลาดของแอพพลิเคชั่นนี้มีการเติบโตสูงมาก โดยมีการตั้งเป้าด้วยยอดขาย AMR ทั่วโลกที่คาดว่าจะสูงถึงประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 โดยมี อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 20% ขณะเดียวกัน ABB วางแผนที่จะขยายการขาย AMR และการสนับสนุนการบริการไปยัง 53 ประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์"

ส่วนสำนักงานใหญ่ของ ASTI ในเมืองบูร์โกส ประเทศสเปน จะกลายเป็นสำนักงานใหญ่ทางด้านธุรกิจ AMR ของ ABB โดยมีหน้าที่หลักที่ครอบคลุมในเรื่อง การวิจัยและพัฒนา วิศวกรรม ผลิตภัณฑ์ และห่วงโซ่คุณค่าและการผลิตของโครงการ (Project value chain) ซึ่งจะดำเนินการต่อไป ณ โรงงานของ ASTI โดย ABB จะขยายกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญที่สำนักงานใหญ่ของธุรกิจ AMR นี้ เพื่อรองรับการขยายตลาดตามแผนในยุโรปและอเมริกาและเพื่ออำนวยความสะดวกในการเติบโตของ AMR ในประเทศจีนและเอเชีย ABB จะจัดตั้งศูนย์กลาง AMR แห่งใหม่ในเอเชีย เพียบพร้อมทั้งระบบและการผลิตเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงห่วงโซ่คุณค่าและการผลิตอย่างเต็มรูปแบบที่โรงงานหุ่นยนต์แห่งใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนในปี 2565 ถือเป็นตลาดหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าจะมียอดขาย AMR 1.8 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2568

162679865152

การเข้าซื้อกิจการของ ABB Robotics ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบริษัทประกาศขยายระบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์สำหรับภาคส่วนใหม่และผู้ใช้ครั้งแรกในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวกลุ่มหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ (Collaborative robots) ที่ชื่อว่า GoFa™ และ SWIFTI™ รวมถึงการประกาศการนำระบบอัตโนมัติเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมการก่อสร้าง