เปิดมาตรการ ‘เยียวยาล็อกดาวน์’ ชดเชยรายได้ 9 อาชีพ 10 จังหวัด

เปิดมาตรการ ‘เยียวยาล็อกดาวน์’ ชดเชยรายได้ 9 อาชีพ 10 จังหวัด

เปิดมาตรการ "เยียวยาล็อกดาวน์" แรงงานและผู้ประกอบการ กลุ่ม "ประกันสังคม" ม.33 ม.39 ม.40 ได้เงินชดเชย 9 อาชีพ 10 จังหวัด ช่วยบรรเทาภาคแรงงานให้กิจการฟื้นตัวโดยเร็ว

ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคาะ "มาตรการเยียวยา" สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อคดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด 9 อาชีพ เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่ม "ผู้ประกันตน" ที่มีนายจ้าง อย่าง ม.33 กลุ่มผู้ประกันตนเอง ม.39 ม.40 และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้รับเงินเยียวยาแตกต่างกันออกไป ตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด 

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมข้อมูลการ มาตรการ "เยียวยาล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด เป็นเวลา 1 เดือนนั้น ดังนี้

ผู้ที่จะได้รับเงิน "เยียวยาล็อคดาวน์"

  1. กรุงเทพมหานคร

  2. นครปฐม

  3. นนทบุรี

  4. ปทุมธานี

  5. สมุทรปราการ

  6. สมุทรสาคร

  7. นราธิวาส

  8. ปัตตานี

  9. ยะลา

  10. สงขลา

9 กลุ่มอาชีพที่จะได้เงิน "เยียวยาล็อกดาวน์"

  1. กิจการก่อสร้าง
  2. กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
  3. กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
  4. กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ 
  5. สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
  6. สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์
  7. สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
  8. สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
  9. สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

  - กลุ่มประกันสังคมมาตรา 33 

ลูกจ้างมาตรา 33 จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และจ่ายสมทบให้สัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน ไม่เกิน 10,000 บาท

นายจ้างมาตรา 33 จ่าย 3,000 บาทต่อคน ลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน

 - กลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 

  • สำหรับผู้ประกันตน .39 ได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท 
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 40 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อจะได้รับ 5,000 บาท

ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 33 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามการเยียวยาลูกจ้างมาตรา 33 และนายจ้างมาตรา 33 ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะที่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ที่ไม่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท


นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตนในครั้งนี้ เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากรัฐบาล และตรวจสอบข้อมูลถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 รวมถึงนายจ้างในกิจการเจ้าของคนเดียวที่มีชื่อระบุตามทะเบียนพาณิชย์ ขอให้ท่านรีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย

นายจ้างที่มีสถานะนิติบุคคล สำนักประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลที่แจ้งขึ้นทะเบียนนายจ้างกับสำนักงานประกันสังคมไว้

"ในเรื่องนี้ ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ จึงได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมประชุมหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งกำหนดรายละเอียดให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไป "

เช็กสิทธิ์ได้ที่ : สำนักงานประกันสังคม คลิก

  • ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตนมาตรา 33) คลิก
  • ตรวจสอบสิทธิ์โครงการเยียวยาฯ (นายจ้าง) คลิก

162633825240