'ศบค.'เปิดจุดตรวจโควิดเพิ่ม จัดตั้ง 'Home isolation' ทั่วกรุง

'ศบค.'เปิดจุดตรวจโควิดเพิ่ม จัดตั้ง 'Home isolation' ทั่วกรุง

สัปดาห์หน้าอาจจะมีผู้ป่วยโควิด 19 พุ่งไปถึงหลักหมื่นคน 'ศบค.' จึงได้ออกมาตรการลดการแพร่ระบาดของโรค โดยล่าสุดได้เปิดจุดตรวจ และเร่งจัดตั้ง 'Home isolation' และCommunity isolation ทั่วกทม.และปริมณฑล

น่าเป็นห่วง!! สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยที่ขณะนี้ยอดผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวนมากที่สุด 7,058  ราย  เช่นเดียวกับยอดผู้เสียชีวิต 75 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก 2,564 ราย และมีการใส่เครื่องช่วยหายใน 698 ราย คิดเป็น 27.22% หรือ 1 ใน 3 โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ที่พบ ผู้ป่วยโควิด 19 พุ่งสูงขึ้นทุกวัน แถมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ยังเป็น สายพันธุ์ 'เดลต้า' สายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าน่ากลัวที่สุดในขณะนี้ 

ด้วยจำนวนของผู้ป่วยที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในวง แคมป์คนงาน พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่กระจายทั่วประเทศ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์​การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ จะมีการหารือมาตรการตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอ ซึ่งจะเป็นมาตรการใหม่ และอาจจะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมถึงได้มีมาตรการในการค้นหาเชิงรุก เพื่อนำผู้ป่วยโควิด 19 ได้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด ลดการแพร่รบาดของโรคโควิด 19 

  • เร่งเปิด 'จุดตรวจโควิด 19' เพิ่ม 9 ก.ค.นี้ที่ศูนย์กีฬาเวศน์

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์​การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.  กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในรพ. จำนวน 5,249  ราย และจากการคัดกรอง อยู่ที่ 1,732 ราย และตอนนี้มีประชาชนไปรอการตรวจ เนื่องจากได้รับทราบว่าเพื่อนฝูง คนในครอบครัวได้รับการติดเชื้อ เรื่องนี้ ศบค. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการเร่งเปิด จุดตรวจโควิด 19 หาเชื้อ ให้แก่ประชาชน เข้าถึงได้มากขึ้น

โดยในวันจันทร์นี้ จะมีรถตรวจพระราชทาน และที่สามารถเปิดได้ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ คือ จุดตรวจประกันสังคม ที่ศูนย์กีฬาเวศน์ จะมีการค้นหาผู้ป่วย ถ้าพบการติดเชื้อจะนำเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันที แต่ถ้าไม่มีการติดเชื้อก็จะมีการจัดสรรให้ฉีดวัคซีนมากขึ้นระดมให้มากขึ้น

  • จัดตั้ง Home isolation 270 จุดทั่วกทม.

นอกจากนั้น ในส่วนของกทม.และปริมณฑล มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยในส่วนของกทม.จะมีทั้งหมด  6 จุดตรวจคัดกรอง ส่วนแล็ปของเอกชนนั้น ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะไปทบทวนการตรวจสอบมาตรฐานถ้าเป็นแล็ปที่มีผ่านการตรวจสอบมาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็จะมีการเปิดให้บริการ จุดตรวจโควิด 19 แก่ประชาชน ดังนั้น เมื่อเห็นภาพการระดมตรวจมากขึ้น ก็จะค้นเจอผู้ป่วยให้มากขึ้น ยอด ผู้ป่วยโควิด 19 ก็จะเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกทม.มีการรายงาน 121 คลัสเตอร์  และมีการรายงานบริหารจัดการเตียง ซึ่งที่ประชุม มีการกำชับในการจัดตั้ง Home isolation หรือ การรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้าน กระบวนการดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการโดยศูนย์บริการสาธารณสุขเขตทกม. ทั้ง 69 แห่ง รวมกับคลินิกอบอุ่น 201 แห่ง รวมทั้งหมด 270 จุด ที่จะเป็นเจ้าภาพ การที่พี่น้องประชาชนอยู่ในระบบการดูแลที่บ้าน จะต้องมีความปลอดภัย และมีข้อจำกัด เช่น บางรายเป็น ผู้ป่วยสีเขียว สีเขียวอ่อน มีการดูแลที่บ้านจ่ายยาได้ตามเหมาะสม

Home isolation  จะมีการเร่งรัดใน1-2 วันให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และจะมีการเร่งรัดจัดตั้ง Community isolation ศูนย์พักคอยการส่งต่อ หรือศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ในชุมชน  เป็นการดำเนินการโดยแต่ละเขตมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยงเป็นโรงพยาบาลหลักในการสนับสนุน ต้องมีมาตรฐาน ยึดความปลอดภัย และต้องให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้เร็วที่สุด

ฉะนั้น  แต่บางจุดอาจจะไม่สะดวกสบายเทียบเท่ากับโรงพยาบาลสนาม ซึ่งอาจจะนอนฟูก แทนนอนเป็นเตียงกระดาษ เป็นต้น จึงอยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ให้เน้นเรื่องความปลอดภัยและการเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เริ่มเที่ยงนี้! รพ.พญาไท เปิดจองวัคซีน 'โมเดอร์นา' เข็มละ 1,650 บาท

                     'Home Isolation' รับเฉพาะผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว แก้ปัญหาเตียงเต็ม

                     'Community Isolation' ระบบช่วยดูแล 'ผู้ป่วยโควิด 19' ในชุมชน

  • ขยายฉีดวัคซีนมากกว่าวันละ 10,000 คน

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคประชาสังคมมีความเป็นห่วงสถานการณ์ พยายามเข้ามาช่วยดำเนินการ ซึ่งบางชุมชนสามารถจัดเป็นรพ.สนามขนาดเล็ก จำนวน 10-20 เตียง ฉะนั้น เมื่อตรวจเยอะ พบผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่อยากให้ผู้ป่วยรอคอยที่บ้าน และไม่อยากให้มีการข้ามพื้นที่ เมื่อมีการจัด ศูนย์พักคอยในชุมชน จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าสู่กระบวนการรักษาใกล้บ้านเร็วที่สุด

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า อีกทั้งได้มีการหารือถึงการ ฉีดวัคซีน โดยจะเน้นที่ แคมป์คนงาน ซึ่งตอนนี้อาจมีหยุดอยู่ แต่เร็วๆนี้ อาจจะมีการผ่อนคลาย ดังนั้น จำเป็นต้องสนับสนุนประสานให้มีวัคซีนแคมป์คนงานเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพื่อลดการแพร่ระบาดโดยเร็ว และมีการเพิ่มขีดความสามารถจัดฉีดวัคซีน เช่น ถ้าวัคซีนมา 50,000 โดส จะฉีดวันละ 10,000 โดส แต่ตอนไปจะฉีด 50,000 โดสให้เร็วที่สุด ไม่ต้องใช้เวลาถึง 5 วัน  

ในส่วนของการดูแล Home isolation และ Community isolation ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการระดับขาว เขียวอ่อนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นกลุ่มเขียวเข็มๆ อาจจะต้องไปสู่รพ.สนาม เช่น รพ.สนามหนองจอก แจ้งวัฒนะ ปตอ. 1 เป็นต้น และถ้าเป็นผู้ป่วยระดับเขียวแก่ และเหลืองอ่อน ก็ต้องไป ไอซียูสนาม เช่น มทบ. 11  ราชพิพัฒน์ และบางขุนเทียน โดยจะเปิดในวันที่ 11 ก.ค.นี้  รวมถึงรพ.หลัก ทั้งรัฐและเอกชน พยายามเพิ่มเตียง เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่มีการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้น ได้รับการจัดสรรโดยเร็วที่สุด