DOHOME - ซื้อ (5 ก.ค.64)

DOHOME - ซื้อ (5 ก.ค.64)

ประมาณการ 2Q64: กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ DOHOME ใน 2Q64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 554 ล้านบาท (+280% YoY และ+2% QoQ) จากยอดขายที่แข็งแกร่ง และ อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิใน 1H64 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (+240% YoY) คิดเป็น 59% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

Impact

SSSG แข็งแกร่งที่ 30% ใน 2Q264

เราคาดว่ายอดขายของ DOHOME ใน 2Q64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 6.1 พันล้านบาท (+33% YoY,+0.2% QoQ) ซึ่งจะทำให้ยอดขายใน 1H64 อยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านบาท (+33% YoY) เราคาดว่า SSSG ใน2Q64 จะแข็งแกร่งที่ 30% (จากใน 2Q64 ที่ 22.5%, ใน 2Q63 ที่ +0.4% และสมมติฐานปี 2564 ของเราที่ 12%) จากผลของฐานที่ต่ำ และราคาเหล็กที่ยังสูงต่อเนื่อง เราคาดว่า DOHOME จะเปิดสาขาใหม่หนึ่งร้านใน 2Q64 ทำให้จำนวนสาขาร้านทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 26 ร้าน (Size XL&L: 14 ร้าน / To Go: 12 ร้าน)

อัตรากำไรยังเพิ่มขึ้นตามคาด

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ DOHOME ใน 2Q64 จะเพิ่มขึ้นเป็น 22.0% (+7.1ppts YoY และ+0.4ppts QoQ) เนื่องจาก i) กลยุทธ์การตลาดของบริษัท ii) กลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า house brand iii) ราคาเหล็กยังอยู่ในระดับสูง iv) product mix ดีขึ้นจากรูปแบบสาขาร้าน และ v) ประสิทธิภาพในการต่อรองกับ suppliers ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 1H64 เพิ่มขึ้นเป็น 21.9% (+6.7pptsYoY) ดีกว่าสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 21.4%

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 เอาไว้เท่าเดิม

ถึงแม้ว่าราคาเหล็กจะปรับลดลงในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ยังสูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว (ราคาเหล็ก rebar YTD อยู่ที่ US$670/ton จาก US$450/ton ในปี 2563) เรามองว่าอานิสงส์จากราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นจะจำกัดใน 2H64 ซึ่งเราใส่ไว้ในประมาณการเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เรามองว่ากลยุทธ์อื่น ๆจะทำให้ บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้ที่ในระดับสูง และทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามที่เราคาดไว้ (เราคาดว่ากำไรจะโต 136% YoY ในปี 2564) ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 เอาไว้

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 34.00 บาท อิงจาก PER ที่ 38.0x(ค่าเฉลี่ยระหว่าง Siam Global House (GLOBAL.BK/GLOBAL TB)* และ Home Product Center (HMPRO.BK/ HMPRO TB)* +1.5 S.D.)

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้ต่ำน้อยที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก