ตำนานเก้าอี้ ผบ.ทบ. ‘บิ๊กป้อม’  สู่ ‘โหงวเฮ้ง’นี้  ‘โทนี่’ไม่ปลื้ม

ตำนานเก้าอี้ ผบ.ทบ. ‘บิ๊กป้อม’  สู่ ‘โหงวเฮ้ง’นี้  ‘โทนี่’ไม่ปลื้ม

ตามข้อเท็จจริง 'พล.อ.เปรม' ไม่เกี่ยวข้องกับการเด้ง 'บิ๊กป้อม' เข้ากรุในอดีต ในขณะที่ 'พล.อ.ประวิตร' ก็ไม่มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ ‘ปฏิวัติ 9 ก.ย.ไม่มาตามนัด’

 คงเป็นความเจ็บแค้นที่ฝังอยู่ในใจลึกๆ ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่ถูก ผบ.ทบ.ที่ตั้งมากับมือ ‘บิ๊กบัง’ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทำรัฐประหาร เมื่อ 19 ก.ย.2549 จนต้องหนีออกนอกประเทศ

8 ปีให้หลัง น้องสาวแท้ๆ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เผชิญเหตุการณ์ซ้ำรอยตามมาติดๆ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ทำรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 และเหตุการณ์ครั้งนั้นยังส่งผลไปถึงน้องสาวอีกคน ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน

แม้เก้าอี้ผู้บัญชาการทหารบก ของ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ จะได้มาด้วยผลงานและความสามารถของตัวเอง ไร้อำนาจ ‘ทักษิณ’ เข้ามาเป็นแรงเกื้อหนุน แต่ ‘เบื้องลึก-เบื้องหลัง’ของ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลายเป็นประเด็นถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง

หากยังจำกันได้ในช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรัฐบาล คสช. เข้าสู่โหมดเลือกตั้งปี 2561 พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมวิจารณ์การยึดอำนาจ คสช. จนทำให้ ‘พล.อ.ประวิตร’ ถึงกับควันออกหู ออกมาตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า “ไม่รู้จักข้าวแดงแกงร้อน” 

กลายเป็นที่มาของการทวิตข้อความเหน็บแหนมจากคนแดนไกล ‘ทักษิณ ชินวัตร’ “ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย”

ต่อด้วยข้อความ “ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับ ป้อม”

เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) และ ‘ทักษิณ’ เตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ถึงขั้นตัดขาดความเป็น ‘ศิษย์พี่-ศิษย์น้อง’ จากโรงเรียนเตรียมทหารผ่านโซเชียลมีเดียแล้ว ยังมีการขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตมาดิสเครดิต

เล่ากันว่า ‘พล.อ.ประวิตร’ คือ ทหารที่ถูกจับตาจะได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เพราะมีเส้นทางเติบโตมาตามไลน์ตลอด ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรมผู้บัญชาการกองพล แม่ทัพน้อยฯ จนเข้าสู้จุดหักเห หลังถูก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น (ประธานองคมนตรี) จับย้ายเข้ากรุเป็น ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ.’

โดย ‘ทักษิณ’ กล่าวอ้างในการร่วมพูดคุยกับ CARE ClubHouse x CARE Talk เมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย.64 ว่า เป็นใบสั่งของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ หลัง พล.อ.ประวิตร เป็นหนึ่งในผู้บังคับการกรม จ.ปราจีนบุรี นำกำลังทหารออกมาในเหตุการณ์ ‘ปฏิวัติ 9 ก.ย.ไม่มาตามนัด’ สมัย พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ

"คนนี้ โดน พล.อ.เปรมสั่งประจำ เหตุการณ์นัดแล้วไม่มาตามนัด ตอนนั้นเป็นผู้การกรมที่ปราจีน คนอื่นเขาไม่ออกสักคน แกนำมาคนเดียว เลยถูกจับได้ว่านำมา ก็ถูกพล.อ.เปรม ประจำ ก็ให้เขาจากประจำ มาเป็นแม่ทัพภาค 1 และเขามีกองเชียร์เยอะมาก ทั้งนายวัฒนา เมืองสุขซึ่งเป็น ส.ส.ปราจีน ก็มาเชียร์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มาเชียร์ ผมไม่ค่อยรู้จักเขา ก็รู้ว่าเป็นพี่ชายของรุ่นพี่ผมคือ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รู้จักกันดี ก็เลยตั้ง”

กรณีของ ‘พล.อ.เปรม’ นับเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของ ‘ทักษิณ’ เพราะตลอดชีวิตรับราชการทหารของ ‘พล.อ.ประวิตร’ ยืนอยู่ข้างรัฐบาลมาโดยตลอด และเหตุการณ์ในขณะนั้นยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมด้วยซ้ำไป

ส่วนสาเหตุแท้จริงเกิดจาก พล.อ.ประวิตร พร้อมเพื่อนเตรียมทหาร 6 ไปตีกอล์ฟที่คุนหมิง ประเทศจีน โดยไม่ได้ลา จึงถูกพล.อ.สุรยุทธ์ สั่งย้ายจากแม่ทัพน้อยที่ 1 เข้ากรุ ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ.’ รวมทั้ง บิ๊กกี่ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่เป็น ผบ.พล.1 รอ.ก็โดนด้วย

โดยก่อนหน้านั้นพล.อ.ประวิตร เคยรับราชการ พล.ร.2 รอ. ที่สระแก้ว จึงมีโอกาสสนิทสนมกับ "เสนาะ เทียนทอง" แกนนำพรรคไทยรักไทย และรู้จักกับ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" รวมถึง "วัฒนา เมืองสุข"

พล.อ.ประวิตร จึงพยายามทุกทางเพื่อกลับเข้าสู่เส้นทางหลัก จนประสบความสำเร็จกลับมาเป็นผู้ช่วยเสธ.ทบ.ต่อด้วย แม่ทัพภาคที่ 1 และเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. ด้วยดีกรี ‘น้องรัก’ ของ ‘บิ๊กเหวียง’ พล.อ.พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร รมว.กลาโหม ช่วงรัฐบาล"ทักษิณ 1" จึงได้แรงหนุนให้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ท่ามกลางเสียงเชียร์จากฝ่ายการเมือง

ในขณะที่ ทักษิณ ไม่แฮปปี้กับการทำงานของญาติผู้พี่ พล.อ.ชัยสิทธ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. ที่ไม่สามารถจัดแถว ‘กองทัพ’ได้ จนทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำ รวมถึงเหตุปล้นปืนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จึงย้ายไปนั่งเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ.แทน

เพราะ ทักษิณ เองก็ต้องการลบข้อครหาเลือกญาติพี่น้องเข้านั่งในเก้าอี้สำคัญ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับประชาชน ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร เป็นน้องรัก พล.อ.พล.อ.เชษฐา ก็น่าจะทำงานเข้าขากันดีในเรื่องการดูแลงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ และจัดแถวกองทัพให้อยู่ในระเบียบวินัย

ดังนั้นภาพ ‘พล.อ.ประวิตร’ เคียงข้าง ‘พล.อ.ประยุทธ์’ หัวหน้ารัฐประหารปี 2557 และอยู่เบื้องหลังรับบท ‘มือประสานสิบทิศ’ เดินเกมวางระบบกลไกทุกอย่าง ไม่เพียงแต่ส่งผลให้คน ‘ตระกูลชินวัตร’ ต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างแดนแบบไม่ได้กลับ ยังกลายเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อมีคนถามถึง ‘พล.อ.ประวิตร’ จึงทำให้ ‘ทักษิณ’ ที่วันนี้กลายเป็น ‘โทนี่ฟีเวอร์’ ฝากข้อความ-คำพูดเจ็บๆ คันๆ ในฐานะคนคุ้นเคยที่สนับสนุนกันมา เพราะหากไม่มีวันนั้น การเมืองไทยอาจเดินมาไม่ถึงในวันนี้... “หากฝึกดูโหงวเฮ้งหน่อย วันนั้นก็คงไม่ตั้ง”