Selective Buy (14 มิ.ย.64)

Selective Buy (14 มิ.ย.64)

ข่าวรพ.หลายแห่งประกาศเลี่อนฉีดวัคซีน Covid-19 ออกไป รวมถึงภาวะ Overbought ตามเทคนิคจะกดดันดัชนีระยะสั้น

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET เพิ่มขึ้น 11 จุด (+0.69%) ปิดที่ระดับ 1,637 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 19 เดือน จาก Fund Flow ไหลเข้าหนุนหุ้น Big Cap พุ่งขึ้นนำตลาด นำโดย AOT กับ Theme เปิดเมือง และ BANPU จากราคาถ่านหินพุ่งทำ New high ในรอบ 9 ปี 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัว 1,630 – 1,650 จุด จากความคาดหวัง Re-opening หลังการฉีดวัคซีน Covid-19 ในไทย รวมถึงคาดการณ์การประชุม FED ในวันที่ 15-16 มิ.ย.จะคงดอกเบี้ยที่ 0.25% และยังคงใช้ QE 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนต่อไป อย่างไรก็ตาม ข่าวรพ.หลายแห่งประกาศเลี่อนฉีดวัคซีน Covid-19 ออกไป รวมถึงภาวะ Overbought ตามเทคนิคจะกดดันดัชนีระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • Global paly ตามเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว PTT PTTEP PTTGC TOP IVL BANPU PSL TTA 
  • BCH CHG BDMS MINT CENTEL ERW AOT CPALL HMPRO CPN CRC AAV AMATA WHA อานิสงส์การเปิดเมือง
  • คาดการณ์หุ้นเข้า SET50  (KCE, IRPC, STA, STGT)   SET100  (AAV, BLA, ICHI, PSL, PTL, SINGER, STARK, STGT, SYNEX) ประกาศช่วงกลางเดือน มิ.ย.

หุ้นแนะนำวันนี้

  • MTC (ปิด 64.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74) ราคาหุ้นลดลงสะท้อนภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมไปแล้ว แนะเก็งกำไร Theme เปิดเทอมหนุนความต้องการสินเชื่อเพิ่ม และคาดเฟดคงดอกเบี้ยสะท้อนดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำเป็นบวกกับกลุ่มไฟแนนซ์
  • PTTEP (ปิด 121 ซื้อ/เป้า 160) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบบวกแรง และคาดกำไรสุทธิใน Q2/64 จะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ปตท. เพราะไม่มีปัญหาเรื่อง Stock gain/loss ให้กังวลเหมือนกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ

บทวิเคราะห์วันนี้

Property sector (Top pick: LH)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) นายกฯ คลายล็อก 5 สถานกิจการเริ่ม 14 มิ.ย. เป็นต้นไป: นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้คลายล็อก 5 ประเภทสถานที่และกิจการตามที่ กทม. เสนอ ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะต่างๆ, คลินิกเสริมความงาม, สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ (อนุญาตเฉพาะนวดฝ่าเท้า), ร้านทำเล็บและร้านสัก เป็นบวกต่อกิจการที่เกี่ยวข้อง
  • (-) รพ. หลายแห่งประกาศเลื่อนการเข้ารับฉีดวัคซีน Covid-19: โดยเฉพาะโครงการไทยร่วมใจของ กทม.ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส Covid-19 ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไปเนื่องจากมีจำนวนวัคซีนไม่เพียงพอและรออยู่ระหว่างรอให้ภาครัฐจัดสรรเพิ่ม ปัจจัยนี้เป็น Sentiment ลบต่อการลงทุนโดยรวมโดยเฉพาะการเปิดเมืองที่อาจจะล่าช้าหากการกระจายวัคซีนไม่เป็นไปตามแผน
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม Fed meeting ประกาศรายชื่อ SET50/100 รอบใหม่: ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ Fed meeting ในวันที่ 15-16 มิ.ย.ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทั่วโลกเฝ้าจับตาและจะเป็นตัวกำหนดทิศทางดัชนีในสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยในประเทศติดตาม ตลท.ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์เข้าคำนวณในดัชนี SET50/100 รอบใหม่ รวมถึง FTSE Rebalance มีผลบังคับโดยใช้ราคาปิด ณ วันที่ 18 มิ.ย.21