‘ดาวโจนส์’ปิดลบ 30 จุดก่อนสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ

‘ดาวโจนส์’ปิดลบ 30 จุดก่อนสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร(8มิ.ย.)ปรับตัวลงในกรอบแคบ ร่วงลง 30 จุด ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 30.42 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 34,599.82 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.74 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 4,227.26 จุด และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 43.19 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 13,924.91 จุด

ราคาหุ้นของบริษัทฟาสต์ลี( Fastly) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งในสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.5% ในวันนี้ หลังจากดิ่งลง 2.5% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคจนส่งผลกระทบทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้

ทั้งนี้ ฟาสต์ลีเป็นบริษัทที่ให้บริการ CDN (Content Delivery Network) โดยบริษัทมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความจำเป็นสำหรับการโหลดคอนเทนท์เกี่ยวกับหน้าเว็บเพจ HTML, ไฟล์ javascript รวมทั้งการส่งภาพและวิดีโอ

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับฟาสต์ลีส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งทั่วโลก เช่น CNN, BBC, The Guardian, Bloomberg News, The Financial Times, The New York Times และ Le Monde

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษ (gov.uk) และเว็บไซต์ของ Amazon.com ก็ประสบปัญหาเช่นกัน รวมทั้งเว็บไซต์ของ Spotify, Twitch และ Reddit

ล่าสุด ฟาสต์ลี ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาขัดข้องทางเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้ และขณะนี้เครือข่ายข่าวดังกล่าวได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ฟาสต์ลีพุ่งขึ้นมากกว่า 300% ในปี 2563 โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากขึ้นต้องทำงานและเรียนอยู่ที่บ้าน

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีซีพีไอประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีซีพีไอประจำเดือนพ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีซีพีไอจะพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551

นอกจากนี้ คาดว่าดัชนีซีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ ดัชนีซีพีไอของสหรัฐดีดตัวขึ้นสูงเกินคาดในเดือนเม.ย. และหากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือนพ.ค. ก็อาจทำให้เฟดส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย.

นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนีซีพีไอประจำเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน มีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการพุ่งขึ้นของดัชนีซีพีไอเมื่อเทียบรายปี มีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในเดือนเม.ย.2563 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะทำให้ตัวเลขดัชนีซีพีไอเมื่อเทียบรายปี ถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าที่ต่ำผิดปกติในปี 2563