ผบ.ตร. สั่งเข้ม 'นครบาล-ภููธร-ตรวจคนเข้าเมือง' สกัดกั้นลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. สั่งเข้ม 'นครบาล-ภููธร-ตรวจคนเข้าเมือง' สกัดกั้นลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. สั่งเข้มนครบาล-ตำรวจภูธร และตรวจคนเข้าเมือง กวดขันลักลอบเข้าเมือง ขบวนการค้ามนุษย์ และเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนร่วมกับทหาร หากพบพื้นที่ไม่ขับเคลื่อนถือบกพร่องหน้าที่ และห้ามเกี่ยวข้องทุจริต หากพบเอาผิดทั้งทางกฎหมาย-วินัย

25 พ.ค.2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนในห้วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของจังหวัดชายแดน ภายใต้ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านระดับจังหวัด

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การปราบปรามยาเสพติด ขบวนการค้ามนุษย์ และปฏิบัติตามมติศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านของจังหวัด และคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนร่วมกับทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนใช้กลไกศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านของจังหวัด และคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ หากมีปัญหาในการปฏิบัติให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบทันที สำหรับพื้นที่ที่ไม่ขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะถือว่าเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ อีกทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ห้ามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อมก็ตาม หากพบจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด

รองโฆษกตร. เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยการสืบสวนสอบสวน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิด ตลอดจนขยายผลไปยังเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดให้ถึงกลุ่มนายทุน มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามหลักยุทธวิธีตำรวจและถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด

หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดสามารถแจ้งไปยัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง