ชำแหละปม “นายกฯคนนอก” คนกันเองชงแผนล้ม“ประยุทธ์"

ชำแหละปม “นายกฯคนนอก” คนกันเองชงแผนล้ม“ประยุทธ์"

เมื่อโยงความสัมพันธ์ของ “ทนายนกเขา-กลุ่มแบ็คอัพ” จะพบว่า "ทนายนกเขา" สนิทชิดเชื้อกับ "สุริยะใส" ซึ่ง "สุริยะใส" ทำงานร่วมกับ "อาทิตย์ อุไรรัตน์" และ "อาทิตย์" รู้จักมักคุ้นกับ "อานันท์ ปันยารชุน" นี่คือเครือข่ายของผู้สนับสนุนแนวคิด "นายกฯคนนอก"

จู่ๆ “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติ

น่าแปลก ที่เครือข่ายของ “ทนายนกเขา” คือคนที่เคยร่วม “ม็อบ กปปส.” ที่มี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เดินนำขบวน 

น่าแปลก ที่กลุ่มคนแบ็คอัพให้กับ “ทนายนกเขา” คือคนที่เคยสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” ให้ออกมายึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

และน่าแปลกที่ “ทนายนกเขา-กลุ่มแบ็คอัพ” ยังเสนอทางออกย้อนยุค โดยให้มีการเลือก “นายกฯคนนอก” และจัดตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" เข้ามาแก้ไขวิกฤติบ้านเมือง ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ได้เปิดช่องให้เลือก “นายกฯคนนอก” ได้

แต่เมื่อต่อจิ๊กซอว์ โยงความสัมพันธ์ของ “ทนายนกเขา-กลุ่มแบ็คอัพ” ก็พอจะเห็นเกม “นายกฯคนนอก” ว่ามีเครือข่ายใด-มีใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหนีไม่พ้นคนหน้าเดิม ที่เคยนำเสนอแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสังคม

เมื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของทนายนกเขา-กลุ่มแบ็คอัพ พบว่า “ทนายนกเขา” เป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อกับ “ยะใส” สุริยะใส กตะศิลา คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมี “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นคนมอบโอกาสให้ “สุริยะใส” เข้ามาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยรังสิต

และรู้กันดีว่า “ดร.อาทิตย์” สนิทสนมกันดีกับ “อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกรัฐมนตรี แถมการชุมนุมของ “กลุ่มราษฎร” เมื่อช่วงกลางปี-ปลายปี 2563 “อานันท์” ยังออกมาแสดงความคิดเห็นให้ “รัฐบาล-ประยุทธ์” รับฟังข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม เสนอให้ยกเลิกอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จนความเคลื่อนไหวของ “อานันท์” ถูกจับตามองเป็นพิเศษ

ทว่าความเคลื่อนไหวของอานันท์กลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆ แต่เมื่อทนายนกเขาออกมาเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก พร้อมเลือกนายกฯคนนอกเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองแทน กลับพบร่องรอยของอานันท์ เชื่อมโยงคอนเนคชันที่คอยเป็นแบ็คอัพให้ทนายนกเขา

หากย้อนดูท่าทีของ “อาทิตย์” ที่ผ่านมา ไม่เคยปฏิเสธแนวคิดนายกฯคนนอก แถมแอบสนับสนุนอยู่ลึก เพราะตัวของ อาทิตย์เองยังปรารถนาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่รู้ว่า "ยาก" ที่จะเข้ามาตามช่องทางปกติ ฉะนั้นแนวคิด “นายกฯคนนอก” จึงเป็นเส้นทางที่อาจจะทำให้อาทิตย์สมปราถนา

หากดูเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไม่ใช่เรื่องยากที่มีนายกฯคนนอกเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ขั้นตอนแรกต้องโหวตไม่เอา “นายกฯคนใน” หรือรายที่พรรคการเมืองส่งรายชื่อให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยต้องใช้เสียงข้างมากเด็ดขาด (ประมาณ 375 เสียง) ของ ส.ส. + ส.ว. โดยเสียงข้างมากนี้เข้าชื่อกันเสนอให้สามารถเลือกคนนอกเป็นนายกฯได้

ขั้นตอนที่สอง เมื่อมีข้อเสนอตามขั้นตอนแรก ก็ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของ ส.ส. + ส.ว. (ประมาณ 500 เสียง) มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอ

ขั้นตอนที่สาม เมื่อมีมติดังกล่าวแล้ว ส.ส. + ส.ว. ก็มาประชุมกันเลือกบุคคลนอกรายชื่อพรรคการเมือง เพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียงข้างมากเด็ดขาดคือ ประมาณ 375 เสียง

ทั้งหมดคือขั้นตอนการเลือก “นายกฯคนนอก” ที่ยากแสนจะเข็ญเพื่อให้ใครบางคนสมปรารถนา เพราะหาก ส.ส.คนใด-ส.ส.พรรคไหน สนับสนุนแนวคิด “นายกฯคนนอก” ต้องเผชิญกระแสต่อต้านหนัก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยเฉพาะ “ม็อบ 3 นิ้ว” ที่รอวันหาประเด็นใหม่ ที่จะสร้างพลังเคลื่อนไหวอีกครั้ง “แกนนำม็อบ 3 นิ้ว” ถูกล็อกโดยคำสั่งศาลอาญา ห้ามเคลื่อนไหวที่กระทบต่อสถาบันฯ แต่หากมีเงื่อนไข “นายกฯคนนอก” ออกมา จะทำให้ “ม็อบ 3 นิ้ว” กลับมามีประเด็นในการชุมนุม และมีพลังดึงดูดแนวร่วมให้มาร่วมชุมนุมได้อย่างแน่นอน

ที่สำคัญแนวคิดนายกฯคนนอก ขัดต่อหลักประชาธิปไตยชัดเจน แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดช่องทางให้ทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ ดังนั้นด่านแรก ส.ส. ก็ยากที่จะโหวตผ่านเปิดทางให้มีนายกฯคนนอกแล้ว

ส่วนด่าน 250 ส.ว. แม้จะรับรู้กันดีว่า ทุกความเคลื่อนไหว ทุกการตัดสินใจ ต้องรอสัญญาณไฟเขียวจาก “3 ป” เท่านั้นหากคิดจะล้ม “ประยุทธ์” โดยใช้เสียงจาก 250 ส.ว. คนคิดต้องฝันสลาย เพราะพี่น้อง “3 ป” แพ็คกันเหนียวแน่น ยากจะแยกออกจากกันได้

จากนี้ไปน่าจับตาความเคลื่อนไหวของ “ทนายนกเขา-กลุ่มประชาชนคนไทย-อานันท์-อาทิตย์” กับข้อเรียกร้อง “นายกฯคนนอก” ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ว่าจะ "คิด-วางแผน-ขับเคลื่อน" ไปในทิศทางใด

ทว่าดูจากกระแสสังคม “นายกฯคนนอก” อาจไม่ใช่ทางออกที่ถูกจังหวะเวลาและสถานการณ์ และอาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง หนำซ้ำยังจะเติมไฟ เพิ่มความขัดแย้ง ให้ซับซ้อนรุนแรงยิ่งขึ้น