ไทยผุดไอเดียผลิตหน้ากากอนามัยจากเปลือกข้าวโพด

นักวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจในชุมชน อ.แม่ริม ต่อยอดนำวัสดุเหลือใช้จากข้าวโพดที่มักจะเผาจนก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควัน มามาผลิตเป็นหน้ากากอนามัย และกระถางต้นไม้ จำหน่ายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายเป็นสินค้าทางเลือกใหม่ในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

ดร.สุมิตร อธิพรหม รองผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานและกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า หลังจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินโครงการเพิ่มมูลค่าใบไม้ ด้วยการส่งเสริมให้ชาวบ้านนำใบไม้และวัสดุเหลือใช้การการเกษตรมาต่อยอดให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับในช่วงนี้มีการรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกลุ่มวิสาหกิจในชุมชน อ.แม่ริม ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดหวานอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้คิดที่จะนำเปลือกข้าวโพดมาพัฒนาต่อยอด ผลิตเป็นหน้ากากอนามัย โดยนำมาเย็บรวมกับผ้าคอตตอนที่มีความละเอียดสูง ทำให้มีคุณสมบัติกรองฝุ่นและเชื้อไวรัสได้ในระดับหนึ่ง

ที่ผ่านมา เปลือกข้าวโพดเหลือใช้มักจะเผาทิ้ง ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควันพิษ แต่หลังจากที่เข้าไปทำงานร่วมกับเกษตรกร จึงได้เปลี่ยนแนวคิดให้นำเปลือกข้าวโพด ซึ่งเป็นวัสดุพื้นบ้านงเหลือใช้หลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิต มาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำเปลือกข้าวโพดมานึ่ง แล้วนำมาตัดเย็บกับผ้าคอตตอลผลิตเป็นหน้ากากอนามัย สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก จำหน่ายในราคา 35 บาท ซึ่งมีกระแสตอบรับอย่างดี ถือเป็นการช่วยส่งเสริมงานหัตถกรรมชาวบ้านและสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

นอกจากนั้นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ จึงได้คิดที่ลดการใช้พลาสติกและโฟม ด้วยการผลิตภาชนะที่จะมาทดแทน โดยนำเศษวัสดุจากข้าวโพด เช่น ใบ เปลือก ลำต้น มาต่อยอดผลิตเป็นกระถางต้นไม้ สามารถย่อยสลายได้ นำมาใช้ทดแทนกระถางพลาสติก หรือถุงพลาสติกดำที่ใช้เพาะชำ ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ให้กับสังคมในการลดการใช้โฟมและพลาสติก นอกจากผลิตเป็นกระถาง เพื่อจำหน่ายในราคาประมาณ 10-15 บาทแล้ว ยังต่อยอดเพิ่มมูลค่าสินค้า ด้วยการปลูกแคคตัสลงไปในกระถาง จำหน่ายในราคาประมาณ 35-50 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากช่วงนี้หลายคนกักตัวอยู่บ้านใสช่วงการแพระระบาดของเชื้อโควิด-19 และส่วนใหญ่จะใช้เวลาว่างปลูกต้นไม้เพื่อคลายความเครียด