ความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยรบกวนตลาดในระยะสั้น

ความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยรบกวนตลาดในระยะสั้น

ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยอาจกลับมารบกวนตลาด

หลังรมว.คลัง สหรัฐฯ เจนเน็ต เยลเลน แสดงความเห็นสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินไป ความเห็นดังกล่าวส่งผลให้ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ปรับลง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี โดย DJIA (+0.06%), S&P500 (-0.67%) และ Nasdaq (-1.88%) ขณะที่ราคาทองคำปรับลดลงกว่า 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ (สวนทางกับที่ตลาดคาดค่าเงินสหรัฐฯ มีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง จากขาดดุลการค้า มี.ค.64 ที่ 7.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากสุดเป็นประวัติการณ์)

กลุ่มป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมีโอกาสแข็งแกร่งกว่าตลาด ในสถานการณ์ที่เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น กลุ่มป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด ได้แก่ 1) หุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ 2) กลุ่มที่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้ลูกค้า และ 3) กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง ซึ่งสถานการณ์ข้างต้น เป็นปัจจัยบวกต่อแรงเก็งกำไรกลุ่มโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นปลอดภัยที่มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวได้ดีในปีนี้ ซึ่งหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ PTT, IRPC, TVO, AP, SPALI, LH, WHAUP, EASTW, BTSGIF เป็นต้น

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP, PTG 6) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 7) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP

ภาพรวมกลยุทธ์ ความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจกดดันตลาดระยะสั้น อย่างไรก็ตามเราควรเห็นการลดนโยบายผ่อนคลายก่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจริง ดังนั้นเราคาดผลจากความกังวลดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้น และเกิดในหุ้นที่ซื้อขายด้วย Valuation ที่แพง // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร IRPC*, TVO*, AMC*, LH*

แนวรับ 1,580 / แนวต้าน : 1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

กลุ่มประกันภัยยังมีแต้มต่อจากสถานการณ์ระบาด. จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความกังวลธุรกิจประกันจะได้รับผลกระทบจากการเคลมสินไหม โดยจำนวนกรมธรรมที่จำหน่ายได้ในปีนี้อยู่ที่ 13.8 ล้านฉบับ (20% ของประชากรไทย) คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับ 5.9 พันล้านบาท ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจากนายกสมาคมประกันวินาสภัยที่ระบุผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 20% มีการถือกรมธรรม์ หากอิงสมมติฐานการมีกรมธรรม์ที่ 20% และจ่ายสินไหมเฉลี่ยต่อกรมธรรม์ที่ 80,000-100,000 บาท จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการขาดทุนจากการรับประกันจะอยู่ที่ 3.0-3.71 แสนราย ซึ่งยังมีส่วนเผื่อความปลอดภัยจากตัวเลขผู้ติดเชิ้อสะสมล่าสุด 46,037 ราย (เฉพาะระลอกใหม่)

MAJOR ไม่ได้รับการลดค่าเช่าจาก MJLF. บริษัทแจ้งตลท.ผู้ถือหน่วยของกองทุน MJLF ที่ถือสิทธิ์ค่าเช้าโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่ง สาขารัชโยธิน มีมติไม่อนุมัติ การงดเว้นค่าบริการในช่วงปิดจากโควิด และไม่อนุมัติการคิดค่าบริการขั้นต่ำ 15% สำหรับปี 2564 ในเดือนที่รายได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2562

อย. เคาะ โมเดอร์นา พ.ค. นี้. อย. ประกาศเตรียมขึ้นทะเบียนวัคซีน "โมเดอร์นา" ภายในเดือน พ.ค. นี้ ด้าน BDMS ประเดิมสั่ง 5 ล้านโดส และ ร.พ.วิภาวดี ซื้อ 1 ล้านโดส ขณะที่วัคซีน Sputnik V กับ Covaxin ออยู่ในขั้นตอนรอยื่นเอกสาร

 

ประเด็นติดตาม: - 6 พ.ค. Chinese Trade Balance เดือน เม.ย. / 7 พ.ค. US Employment Report / 11 พ.ค. OPEC Monthly Report / 12 พ.ค. US CPI เดือน เม.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)