SCC - ซื้อ

SCC - ซื้อ

ผลประกอบการ 1Q64: กำไรดีกว่าที่เราคาดไว้ 29%

Event

ผลประกอบการ 1Q64

lmpact

กำไรสุทธิใน 1Q64 โตแรงทั้ง YoY และ QoQ จากทุกกลุ่มธุรกิจ

กำไรสุทธิของ SCC ใน 1Q64 อยู่ที่ 1.49 หมื่นล้านบาท (+113.9% YoY, +85.3% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 29.3% และดีกว่า Bloomberg consensus 27.5% เนื่องจากกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจออกมาดีเกินคาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 39.4% ของประมาณการทั้งปี ของเรา โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เป็นผลมาจาก i) spread เคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น ii) อุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น iii) อุปสงค์แข็งแกร่งในธุรกิจบรรจุภัณฑ์

Key highlights

       i) กำไรของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (59.2% ของกำไรสุทธิใน 1Q64) เพิ่มขึ้น 396% YoY และ 51% QoQ เป็น 8.8 พันล้านบาทเนื่องจาก spread ของ HDPE และ PP แข็งแกร่ง (Figure 3) โดยปริมาณยอดขาย Polyolefin เพิ่มขึ้นเป็น 488kt (+15.9% YoY , +10.4% QoQ) เนื่องจากไม่มีการปิ ดโรงงาน MOC ตามแผนเหมือนใน 4Q63 และไม่มีการตุนสต็อกเหมือนใน 1Q63 นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากสต็อกเพิ่มขึ้นเป็น 1.14 พันล้านบาท จาก 1.06 พันล้านบาทใน 4Q63 และจากที่ขาดทุนจากสต็อก 1.1 พันล้านบาทใน 1Q63 ทั้งนี้ โครงการ MOC debottleneck ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นของการเริ่มการผลิต (คาดว่าจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตในเดือนพฤษภาคม 2564)

       ii) กำไรของธุรกิจปูนซีเมนต์-วัสดุก่อสร้าง (18.8% ของกำไรสุทธิใน 1Q64) เพิ่มขึ้น 1.1% YoY และ 1,547.9% QoQ เป็น 2.8 พันล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ จะมาจาก i) ไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 1.56 พันล้านบาท และ ii) อุปสงค์วัสดุก่อสร้างในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ อุปสงค์ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น 3% YoY จากอุปสงค์ในภาครัฐ (+6% YoY) และอุปสงค์จากภาคที่อยู่อาศัย และการพาณิชย์ (+2% YoY)

      iii) กำไรของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (10.3% ของกำไรสุทธิใน 1Q64) เพิ่มขึ้น 48% QoQ เป็น 1.5 พันล้านบาท เนื่องจาก i) อุปสงค์แข็งแกร่ง และราคาขายผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ii) รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก SOVI และ Go-Pak และ EBTIDA margin เพิ่มขึ้น สำหรับแนวโน้มใน 2Q64 ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการนำวัคซีนป้องกัน COVID-19 มาฉีดทั่วภูมิภาค ASEAN อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น่าจะแผ่วลง QoQ เนื่องจากมีวันหยุดยาวในประเทศไทย (สงกรานต์) และอินโดนีเซีย (Hari Raya)

ประมาณการกำไรยังมี upside อีก 8.2% ในปี 2564 และอีก 3.9% ในปี 2565 จากกลุ่มเคมี และบรรจุภัณฑ์

เราคิดว่าประมาณการกำไรของเรายังมี upside อีก 8.2% ในปี 2564 และอีก 3.9% ในปี 2565 จาก i) spreadของ PP (ปรับเพิ่มจาก US$570/t เป็น US$700/t ใน ปี 2564 และ US$/650/t ในปี 2565) และ ii) อุปสงค์ที่ดีกว่าคาด และการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ในขณะเดียวกัน เรามองว่าราคาเป้าหมายปี 2565 ของเราก็ยังมี upside อีก 2.3% เช่นกัน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า spread ของเคมีภัณฑ์จะขยับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง YTD แต่เราเชื่อว่า spread ของ HDPE และ PP น่าจะลดลงใน 2H64 เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2565 ที่ 484 บาท ทั้งนี้ SCC กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการแยก SCG Chemical ออกมาจดทะเบียนในตลาดผ่านการขายหุ้น IPO ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2565

Risks

ความล่าช้าของงานก่อสร้างภาครัฐ, ต้นทุนพลังงานอยู่ในขาขึ้น, ความผันผวนของ spread เคมีภัณฑ์