กทม.เปิดผลตรวจเชิงรุก 'เขตคลองเตย' พบติดเชื้อ 'โควิด' พุ่ง 50 ราย

วันที่ 29 เม.ย. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการติดตามผลความก้าวหน้าการตรวจเชิงรุกActive case finding โดยรถพระราชทานตรวจเชื้อชีวนิรภัยเพื่อหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 และวิเคราะห์ผลโดยรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน (Express analysis mobile unit) บริเวณพื้นที่วัดสะพาน และชุมชน 70 ไร่คลองเตย เขตคลองเตย ในขณะนี้บริเวณชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตยดำเนินการตรวจไปแล้ว 436 ราย พบผลติดเชื้อ Positive จำนวน 21 ราย และบริเวณวัดสะพานดำเนินการตรวจไปแล้ว 489 ราย พบผลติดเชื้อ Positive จำนวน 29 ราย ซึ่ง กทม.จะดำเนินการสอบสวนโรคพร้อมประเมินอาการผู้ป่วยเพื่อส่งเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม. ขอความร่วมมือประชาชนใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกจากเคหสถานทุกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิดและเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคและมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล

"เนื่องจากตอนนี้มีการกระจายของเชื้อเป็นวงกว้างทำให้ต้องป้องกันตนเองโดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่กับผู้อื่น และเน้นย้ำวิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีโดยปิดหน้ากากอนามัยให้คลุมจมูกและปาก ทดสอบว่าด้านบนของหน้ากากอนามัยแนบกับแนวสันจมูกเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิดและเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

ด้านนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกทม.ได้เตรียมความพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องโดยในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ที่มีผู้เข้ารับบริการจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งยังเป็นหน่วยตรวจคัดกรองโควิดทำให้ รพ.เป็นสถานที่เสี่ยงสัมผัส จึงได้ลดการทำหัตถการและการผ่าตัด จำกัดการให้บริการต่างๆ และงดเยี่ยมผู้ป่วยใน สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคงที่และมีนัดติดตามอาการสามารถโทรศัพท์แจ้งเลื่อนนัด หรือใช้บริการพบแพทย์ผ่านโทรเวชกรรมผ่านแอปพลิเคชัน “MorBMA-หมอ กทม.” เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล นอกจากนี้สำนักการแพทย์ยังได้เพิ่มช่องทางการรับยาของผู้ป่วยผ่านทางไปรษณีย์ร้านยาใกล้บ้าน หรือรับยาที่จุดบริการ Drive Thru (เฉพาะ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ)

นางศิลปสวย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผู้สูงอายุ กทม.ได้วางแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในกลุ่มผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค 2 ที่มีลักษณะแบบพักอาศัยอยู่ประจำ 24 ชั่วโมง โดยงดการจัดกิจกรรม การศึกษาดูงาน การฝึกภาคปฏิบัติงานจากหน่วยงานและบุคคลภายนอกในบ้านผู้สูงอายุบางแค 2 ตั้งแต่วันที่ 19 - 30 เม.ย. หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันได้แจ้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นให้ผู้สูงอายุ บุคลากร และบุคคล ภายนอกที่เข้ามาติดต่อราชการในบ้านผู้สูงอายุบางแค 2 รับทราบ รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิดพร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณอาคารสำนักงาน ห้องอาหารห้องกายภาพบำบัด ศาลาธรรม ห้องพักผู้สูงอายุ ตลอดจนพื้นผิวสัมผัสเป็นประจำ อีกทั้งไม่อนุญาตให้ผู้สูงอายุออกนอกบ้านบางแค 2 ยกเว้นการเดินทางไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในผู้สูงอายุ

ปลัด กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม กทม.ขอความร่วมมือผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด หรืออยู่ระหว่างกักตัว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดกับคนรอบข้าง ได้แก่ ควรอยู่ในห้องแยกต่างหากที่อากาศถ่ายเท ไม่ใช้พื้นที่ส่วนรวม รักษาระยะห่างจากคนอื่นในครอบครัวอย่างน้อย 1 เมตร เลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรใช้ภาชนะส่วนตัว ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเครื่องใช้และห้องต่างๆ ใช้น้ำร้อน 60-90 องศาฯ ร่วมกับน้ำยาซักผ้าปกติในการซักผ้า สวมถุงมือทุกครั้งในการทำความสะอาดและล้างมือทั้งก่อนและหลังทำความสะอาด

"หากต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ควรปิดฝาชักโครกทุกครั้งก่อนกดน้ำชำระ แยกขยะ เช่น ถุงมือ กระดาษชำระ หน้ากากอนามัย และทำเครื่องหมายติดป้ายไว้ว่า “ขยะติดเชื้อ” หากมีอาการไม่พึงประสงค์สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ 1646 ตลอด 24 ชั่วโมง" ปลัด กทม.ระบุ