'เพนกวิน' ลั่น ยอมตาย เดินหน้าอดอาหารต่อ

'เพนกวิน' ลั่น ยอมตาย เดินหน้าอดอาหารต่อ

มารดา 'เพนกวิน' ระบุ น้ำหนักตัวลูกลดเกือบ 20 กก. เนื้อตัวพรุนเต็มไปด้วยรอยเข็ม แทบจะไม่มีเส้นเจาะน้ำเกลือ

19 เม.ย.64 นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน ให้สัมภาษณ์ถึงการได้พูดคุยกับเพนกวินว่า วันนี้ได้เจอลูกก็ดีใจ เพราะไม่ได้พบกันมานาน ได้เจอกันตัวเป็นๆ ตอนที่นั่งดูในห้องพิจารณาคดีก็ได้สังเกตเขา เพราะพบทุกคนทั้งเพื่อน พ่อ แม่ น้อง เขาก็สดชื่น เราพยายามสังเกตว่าเขาซ่อนอาการไว้หรือเปล่า แต่ที่เห็นได้ชัดคือผอมลง

เมื่อถามน้ำหนักก็พบว่าเพนกวินน้ำหนักลดลงไปเกือบ 20 กิโลกรัม และถามถึงเหตุการณ์ที่สายน้ำเกลือหลุดออกจากแขนบ่อยๆ ซึ่งเพนกวินก็บอกว่า แขนพรุนไปด้วยรอยเข็ม แทบจะไม่มีเส้นเจาะน้ำเกลือ ต่อมาตอนเพนกวินกล่าวกับศาล มีอาการมือสั่นเหมือนต้องใช้พลังงานมากในการพูดคุย ทั้งที่ไม่ได้ใช้แรงมาก เนื่องจากมีไมโครโฟน คงหมดแรงจริงๆ แต่ที่แสดงออกมาเพื่อไม่ให้พวกเราเป็นห่วง

นางสุรีย์รัตน์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้พยายามไม่สัมผัสกัน เพราะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์บอกถ้าทำตัวดีก็จะได้พูดคุยกับลูก ตนไม่อยากจะสัมผัส เพราะกลัวว่าเชื้อโรคจะติดไปที่ลูก ยิ่งตอนนี้สภาพเพนกวินอ่อนแอมาก และได้ยินมาว่าข้างในเรือนจำก็มีการติดโควิด พร้อมกับช่วงนี้เป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง โรคประจำตัวของเพนกวินที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ ก็จะกลับมาทำให้ยิ่งกังวลว่าเขาจะปลอดภัยไหม สุขภาพเขาจะดีไหม เขาจะอยู่ถึงการไต่สวนในกระบวนการถัดไปหรือเปล่า เราไม่แน่ใจเลย แล้ววันนี้เห็นเพนกวินพยายามจะลุกแต่ก็ลุกไม่ไหวอยู่แล้ว คงพยายามจะโชว์ให้เราเห็นว่าเขาโอเค เขาสบาย และมีการเสียบยาดมที่จมูกตลอด แต่ไม่ยอมบอกอาการว่าเขาเจ็บป่วยตรงไหน ตอนนี้ภาวะของเพนกวินสุ่มเสี่ยงมาก อาจจะช็อคได้ตลอด อย่างที่บอกไปว่าในระยะเวลาไม่กี่วันเพนกวินมีอาการวูบไปแล้ว 2-3 รอบ ถ้ารักษาตัวข้างนอกก็อาจจะอยู่ไอซียูไปแล้ว

เมื่อถามว่า เพนกวินยังยืนยันจะอดอาหารต่อไปหรือไม่ แล้วแม่ได้มีการขอร้องให้เพนกวินเลิกอดอาหารบ้างไหม นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า เพนกวินเขาก็ยังยืนยันในหลักการของเขาที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเขาและเพื่อนๆ ในการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี

"ยืนยันที่จะอดอาหารต่อ คือเขายอมตาย เราก็เห็นว่าเด็กทำถึงขนาดนี้แล้ว แล้วก็ยังไม่มีการกระทำความผิด ยังไม่ถูกตัดสินเลย แค่ขอสิทธิ์ที่จะมาต่อสู้คดีข้างนอก มีสิทธิ์ตามที่กฎหมายกำหนด ขอให้ทำตามกฎหมายให้เด็กประกันตัวออกมาได้ แค่นี้ยังทำไม่ได้ ต้องแลกด้วยชีวิตอีกกี่ชีวิต ทั้งเพนกวินทั้งรุ้ง (น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล) หรือใครๆ"

นางสุรีย์รัตน์ ระบุด้วยว่า วันนี้เราจะพยายามประกันตัวให้เพนกวินอีก ทั้งที่เราก็รู้แล้วยื่นไปก็ไม่ได้ แต่ครั้งนี้ศาลท่านได้เห็นตัวเป็นๆ ว่าสภาพเพนกวินเป็นอย่างไร ได้คุยกับเพนกวินว่าเพนกวินมีแรงขนาดไหน สภาพน่ากังวลขนาดไหน เราขอประกันตัวเพนกวินออกไปรักษาไม่อยากให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นกับเพนกวิน เพราะหากเกิดแล้วใครจะรับผิดชอบ ศาลท่านรับผิดชอบไหวไหมกับการที่จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กๆ เหล่านี้

เมื่อถามว่าแม่จะเป็นนายประกันเองหรือไม่ นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า วันนี้จะเป็นนายประกันเอง ทนไม่ไหวแล้วเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย ลองขอประกันอีกที ถึงแม้ความหวังจะน้อยนิด เราพยายามทุกอย่างแล้ว ประกันตัวไปเราก็ไม่ได้หนีไปไหน เรานำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้เด็กได้มีชีวิตอยู่ได้รักษาตัว หากเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ เราไม่ต้องการคำขอโทษ เพราะชีวิตหนึ่งกับคำขอโทษมันไม่ได้อะไรเลย อย่างวันนี้เพนกวินได้ขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เพื่อนเข้าไปพูดคุยเพื่อปรึกษากันเรื่องเรียน เพนกวินยังเด็ก ด้านหนึ่งเขาทำกิจกรรมเพื่อบ้านเมือง แต่อีกด้านเขามีหน้าที่เรียนหนังสือ เขายังทักกับเพื่อนเลยว่าจะจบแล้วใช่ไหม เพื่อนเขาจะจบเดือนพฤษภาคม เรารู้เลยว่าเขาเศร้า เพราะเขาไม่จบ แล้วไม่รู้ว่าจะได้จบหรือเปล่า จะได้เรียนต่อหรือไม่ อนาคตจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าได้เห็นสภาพของลูกแล้วมีอะไรอยากจะบอกเขาหรือไม่ นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า ให้รักษาตัวดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เขาก็คงเข้าใจว่าเรารักเขาขนาดไหน แต่ต่อหน้าเราก็พยายามที่จะไม่อ่อนแอ เราจะพยายามเข้มแข็งให้เขาไม่ใจเสีย เพราะลำพังตัวเขาเองก็อ่อนแอมากอยู่แล้ว