'ปชป.'หมายตา4แคนดิเดต'ผู้ว่าฯกทม.'ลงในนามพรรคคาดหย่อนบัตรต.ค.นี้

'ปชป.'หมายตา4แคนดิเดต'ผู้ว่าฯกทม.'ลงในนามพรรคคาดหย่อนบัตรต.ค.นี้

"องอาจ" คาด เลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม.-สก." ต.ค.นี้ เผย ทาบทาม คนมีความรู้ความสามารถแล้ว แย้ม หมายตาว่าที่ผู้สมัครส่งลงในนาม "ปชป." 3-4 คน ชี้ ถึงเวลาจะประกาศต่อไป

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. และ สก. ว่า เมื่อดูไทม์ไลน์การเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในขณะนี้ คาดว่าจะมีขึ้นประมาณเดือนตุลาคม น่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. โดยในส่วนของปชป. ดำเนินการแล้วใน3 ส่วนสำคัญ คือ 1.การเตรียมนโยบายบริหารกทม. ทางพรรคได้สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับกทม. มีการจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนผ่านรูปแบบต่างๆ ทั้งในระบบออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเพื่อประชาชน ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนโยบายก็ผ่านพ้นไปด้วยดี และขณะนี้คณะทำงานด้านนโยบายกทม. ของพรรครวบรวมความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน ภาคส่วนต่างๆ มาวิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อให้ออกมาเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม เห็นถึงแนวทางปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. ไปจนถึงเมื่อได้รับการเลือกตั้ง ก็สามารถนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติได้จริง

นายองอาจ กล่าวว่า 2.การเตรียมการในส่วนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้ง สก. และผู้ว่าฯ กทม. โดยในส่วนของ .. นั้น นอกจากพรรคฯ จะมีส่วนที่เป็น .. เดิมของพรรคฯ ที่พร้อมทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องประมาณ 20 คนแล้ว พรรคฯ ยังได้เปิดรับสมัครผู้สนใจลงสมัคร .. กับพรรค ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยพรรคฯ ได้เชิญมาสัมภาษณ์ และได้พิจารณาคัดเลือกไว้จำนวนหนึ่งเพื่อให้ลงสมัคร สก. ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่จำนวนมากให้ความสนใจทำงานในระดับท้องถิ่น ขณะนี้พรรคฯ ได้พิจารณาผู้สมัครเรียบร้อยไป 80% แล้ว เหลือเพียงบางเขตที่ต้องใช้เวลาพิจารณาคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมเนื่องจากมีผู้สนใจหลายคน ทั้งนี้ก็เพื่อให้แต่ละเขตได้บุคคลที่มีความตั้งใจ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ พร้อมทำงานให้พี่น้องประชาชนให้ดีที่สุดต่อไป

นายองอาจ กล่าวว่า 3.ในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ทางพรรคมีทั้งในส่วนที่ได้ทาบทามผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. และขณะเดียวกันก็มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครด้วย จึงต้องนำบุคคลเหล่านี้มาพิจารณาร่วมกันทั้งหมด ผ่านกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นของพรรค ขณะนี้เหลือบุคคลที่เข้าข่ายการพิจารณา 3-4 คน ซึ่งก็ต้องเข้าสู่กระบวนการการพิจารณาตามข้อบังคับพรรคต่อไป และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พรรคฯ จะได้ประกาศตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามของพรรคต่อไป

ผมเชื่อมั่นว่าบุคคลที่พรรคพิจารณาจะสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาแก้ไขปัญหาที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผมถือว่าการบริหารเมืองหลวงของทุกประเทศจะต้องแข่งขันกันสูง เพื่อทำให้เมืองหลวงของประเทศพัฒนาไปได้ ทำให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิต ประกอบธุรกิจ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีความสุขในยุคนิวนอร์มอลต่อไปนายองอาจ กล่าว