สนไหม? เมเจอร์ฯ เปิดทางให้แฟนภาพยนตร์-คนถือ 'Bitcoin' ใช้แลกตั๋วหนัง 

หนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจโรงหนังของยักษ์ใหญ่อย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์”  คือนำเทคโนโลยีมายกระดับสู่ “Major 5.0” ต่อจิ๊กซอว์ให้องค์กรเป็น Total Digital Organization ล่าสุด เห็นก้าวสำคัญเมื่อบริษัทผนึกพันธมิตรทั้ง “ซิปเม็กซ์” และ “แรพิดซ์” ผุดโปรเจค “ทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล” หรือ คริปโตเคอเรนซี เป็นรายแรกของไทย 

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เล่าว่าโปรเจคแลกตั๋วหนังด้วยคริปโตเคอเรนซีเริ่มทำมาราว 1 ปี แล้ว เหตุผลหลักๆคือการมุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ซื้อตั๋วหนังได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงรองรับเทรนด์สังคมไร้เงินสด(Cashless Society)ด้วย เพราะในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฯ จะซื้อตั๋วหนังผ่านแอ๊พพลิเคชั่นต่างๆในอัตราสูงมาก 70-80%

ขณะที่แต่ละปีเมเจอร์ ขายตั๋วหนังมากกว่า 40 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ยังดำเนินการผ่านหน้าเคาน์เตอร์หรือบ๊อกซ์ ออฟฟิศ 10% และตู้จำหน่ายอัตโนมัติ 80% ผ่านแอ๊พพลิเคชั่นเพียง 10% เท่านั้น หรือช่วงที่หนังทำเงินเข้าคนซื้อตั๋วผ่านแอ๊พฯก็พุ่งแตะ 20% เป็นสัดส่วนที่น้อย สิ่งที่เป็นอุปสรรคหรือ Pain point เพราะการจ่ายเงิน(Payment)

ทั้งนี้ แม้การใช้จ่ายด้วยคริปโตเคอเรนซี จะยังไม่บูมนัก และโจทย์ยากคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายต่างๆ การมี “พันธมิตร” ที่เชี่ยวชาญในตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้ง 2 ราย ช่วยเสริมจุดแข็งในโปรเจคใหม่ค่อนข้างมาก ต่อยอดเมเจอร์ที่แกร่งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีตอบไลฟ์สไตล์คอหนัง

สำหรับบริการรับแลกตั๋สหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัลประเดิมสาขาแรกที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพราะเป็นท็อป 3 ที่คนมาดูหนังมากสุด ทดลองรับเพียงสกุล “บิตคอยน์”(Bitcoin) เท่านั้น และคาดหวังมีลูกค้าใช้สกุลเงินดิจิทัลมาแลกตั๋วหนังหลัก “พันถึงหมื่นคนต่อเดือน” ในปีนี้จะขยายให้บริการ 39 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และจะต่อยอดไปยังบริการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น แลกบริการโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ เป็นต้น

“เป้าหมายของเมเจอร์ คือตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า นอกจากโปรเจคแลกตั๋วหนังด้วยคริปโตเคอเรนซี ไตรมาส 2 บริษัทจะมีการปรับปรุงแอ๊พพลิเคชั่น Major Cineplex ทั้งหมด โดยรวมทุกบริการทั้งซื้อตั๋ว M-Pass M-Generation ฯ เข้ามาอยู่ด้วยกัน ผลักดันสู่การเป็นซูเปอร์แอ๊พ เพื่อให้ลูกค้าซื้่อตั๋วผ่านแอ๊พแตะ 80% โดยเร็ว อนาคตสาขาก็จะไม่มีบ็อกซ์ ออฟฟิศ ซึ่งปัจจุบันสาขาใหม่ไม่มีเคาน์เตอร์ขายตั๋วหนังแล้ว”

วิศรา  โชคดีทวีอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แรพิดซ์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูงมาก จึงส่งผลทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจมีความกังวลในการแลกเปลี่ยนซื้อสินค้า บริษัทจึงรับหน้าที่มาแก้โจทย์ดังกล่าว ขณะที่การเข้ามาร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ ยังคาดหวังจะช่วยทำให้การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเพื่อซื้อสินค้าและบริการขยายใหญ่ขึ้นด้วย

ปัจจุบันแรพิดซ์ มีลูกค้าที่ดาวน์โหลดแอ๊พและใช้งานราว 4,000-5,000 คน การทดลองโปรเจคกับเมเจอร์ฯ จะช่วยทำให้ลูกค้าเพิ่มแตะหลักหมื่นได้ เพราะบริษัทจะต่อยอดสู่สินค้าและบริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น

“ตลาดคริปโตเคอเรนซีผันผวนมาก การโอนเงินเพื่อแลกสินค้าและบริการใช้เวลา 5-10 นาที เราจึงเป็นตัวกลางเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการว่าเมื่อแลกสินค้าแล้วมูลค่าจะไม่หายไป”

พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด กล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลมีเป็นพันสกุล แต่ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆของโลกได้แก่ บิตคอยน์ อีเธอเรียม ฯ ขณะที่ซิปเม็กซ์ ซึ่งรับเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆเป็นเงินบาท พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้คริปโตเคอเรนซีเพื่อการลงทุน หรือออมมากสุด ตามด้วยการแลกแกลเลอรี และบริจาค ลักษณะประชากรศาสตร์อายุ 31 ปีขึ้นไป 

ในประเทศไทยมีผู้ใช้คริปโตเคอเรนซีไม่มากนัก 4-5 แสนราย แต่แนวโน้มคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น ซึ่งซิปเม็กซ์จะขยายการแลกเปลี่ยนไปสู่สินค้าและบริการตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคชาวไทยให้กว้างขวางขึ้น