นายกฯลั่นไม่แคร์'รมต.'ได้เสียงโหวตมากหรือน้อย โยนสื่อปลุกกระแส 'ปรับครม.'เอง

นายกฯลั่นไม่แคร์'รมต.'ได้เสียงโหวตมากหรือน้อย โยนสื่อปลุกกระแส 'ปรับครม.'เอง

"นายกฯ" ลั่น ไม่แคร์ ใครจะได้คะแนนอภิปรายมากหรือน้อย ชี้ สิ่งสำคัญคือผ่าน โยน สื่อปลุกกระแส "ปรับครม." ขึ้นมาเอง ยอมรับ รู้ถึงปัญหาความขัดแย้งในระบบการศึกษา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2564 ถึงผลการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ขอให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วย มากกว่าการเสนอข่าวด้วยความขัดแย้ง เพียงอย่างเดียวเพราะจะทำให้สิ่งต่างๆ ที่มันดีขึ้นหายไปหมดเลยอะไรมันผิดก็ว่าไป อะไรมันถูก ก็กรุณาสร้างความเข้าใจด้วยแล้วกัน ส่วนควันหลงอะไรก็เป็นเรื่องของการเมือง ตนไม่ให้ความสำคัญตรงนี้เท่าไหร่ ตนดูในขั้นที่ว่าเราจะแก้ไขอย่างไร แต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไร ให้สามารถตอบรับความต้องการ ของประชาชนได้ เรื่องทุจริตข้อสอบสวนกัน เรื่องระหว่างพรรค ก็เรื่องของพรรค มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอดยาวนานมาแล้วไม่ใช่มาเกิดเฉพาะวันนี้

"ก็ปฏิรูปตัวเองกันด้วย ทั้งในสภานอกสภาอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่ตำหนิใคร" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯได้โทรหานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ หรือไม่ หลังจากลงมติการอภิปรายเสร็จสิ้น พล..ประยุทธ์ ย้อนถามทันทีว่า "โทรหาเรื่องอะไร ผมไม่ได้สนใจใครได้คะแนน มันผ่านอภิปรายมันก็จบ จบตรงโน้น ใครจะมากจะน้อย ผมได้น้อยผมก็ไม่ได้แคร์อะไรเพราะผมผ่าน เขากำหนดกันตรงนั้นไม่ใช่หรือ ผ่านอภิปรายหรือไม่อภิปราย แต่งานหลายงานหลายกระทรวง ไม่เฉพาะกระทรวงศึกษาฯ ทุกกระทรวงผมสั่งการ อีกเยอะที่อยู่ในขั้นตอนการทำงานที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งระบบทั้งองค์กร บุคลากรต่างๆ ต้องปรับทั้งหมดไม่เช่นนั้นก็อยู่ที่เดิมหมด เพราะฉะนั้นหลายอย่างมันอาจมีความขัดแย้งกัน ยังไม่เห็นชอบร่วมกัน แต่ในระดับยุทธศาสตร์ หรือบริหาร ผมจำเป็นต้องให้ปรับก็ไปว่ากันในสภา ไม่ว่าจะพ...อะไรก็แล้วแต่ หรือปฏิรูป ก็ไปว่ากันในสภา เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทุกเรื่องเป็นเรื่อง ของรัฐสภา ผมบริหาร ผมไม่จำเป็นต้องโทรหาใคร หลังจากเลิกประชุมทุกคนก็เดินผ่านมาทางผม แสดงความยินดีกับผม ผมก็คุยกับเขา ไม่ได้สนใจว่าใครจะได้เท่าไหร่ ผ่านหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นความขัดแย้งต่อไป พรรคก็เป็นเรื่องของพรรค" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการจะลงคะแนนเสียงก็เป็นมติของพรรค หรือแล้วแต่ว่าจะให้แสดงความคิดเห็นแล้วลงคะแนนส่วนตัวหรือไม่ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าเค้าไม่ทำก็เรื่องของเขา ตนจะไปยุ่งอะไรกับเขาได้ล่ะ แล้วมันผ่านหรือเปล่าก็ถามอยู่อย่างนี้ จะมากจะน้อยไม่สำคัญ สำคัญคือผ่าน

เมื่อถามว่า จะสยบข่าวลือเรื่องการปรับครม. หรือไม่อย่างไร หรือมีกระแสข่าวเรื่องนี้จริง นายกฯ กล่าว่า "กระแสเธอเป็นคนปลุกปั่น ขึ้นมาเองเราไม่เคยพูด"

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่มีการพูดแหย่ร..ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นั้นซึ่งได้คะแนนโหวตมากกว่าตน น่าจะเป็นนายกฯ นั้น พูดแหย่พูดเล่นกันไม่ได้หรือไง สื่อจะจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้ บางเรื่องแสดงว่ามันดีก็โอเค ได้น้อยหน่อยมากหน่อย ไม่เป็นไรเอาผ่านใช่หรือไม่ จะแซวอะไรก็เป็นเรื่องภายใน ก็แหย่กันเล่น ไม่ได้หรือ ไม่ได้ตั้งใจจะให้สื่อเอามาแพร่ตรงโน้น ตนไม่จำเป็นต้องไปอะไรกับใคร ตนถือเป็นมติของสภาจบ นั่นคือ อภิปรายไม่ไว้วางใจสมาชิกเสียงข้างมากไว้ใจก็จบ ก็แค่นั้นเอง ตนก็ต้องมาดูว่าสิ่งที่ทำแล้วทำถึงไหนกัน ถ้ายังทำไม่เสร็จ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา และความขัดแย้งมันเกิดสูงหรือไม่ ในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ระบบการศึกษา สื่อไม่รู้อะไรทั้งหมดหรอก แต่ตนเป็นคนรู้ทุกเรื่อง