'เถ้าแก่น้อย' โต้ข่าวทิ้งหุ้น ชูเป้าหมาย 10 ปี ยอดขาย 3 หมื่นล้าน

'เถ้าแก่น้อย' โต้ข่าวทิ้งหุ้น ชูเป้าหมาย 10 ปี ยอดขาย 3 หมื่นล้าน

“ข่าวลือ” บ้างมีมูลความจริง บ้างก็เป็นเพียงแค่การ “ปั่นกระแส” เพื่อหวังให้เกิดผลบางประการ ยิ่งวงการตลาดทุน หากมีข่าวลือโดยเฉพาะการซื้อขายกิจการ ขายหุ้น อาจมีผลต่อ “ราคา” ที่จะต้องจ่าย

สัปดาห์ที่ผ่านมาเถ้าแก่น้อยมีข่าวสะพัดถึงแผนจะขายหุ้นให้กับพันธมิตรรายหนึ่ง พร้อมทั้งเตรียมดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) โดยบรรดาผู้บริหารตั้งแต่ตัวของ อิทธพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ปลุกปั้นเถ้าแก่น้อยประสบความสำเร็จเป็นวัยรุ่นพันล้านรวมถึงผู้บริหารของบริษัท ต้องออกมาปฏิเสธข่าวพัลวันว่าไม่เป็นความจริง

แม้เรื่องดังกล่าวยังต้องเกาะติด แต่ระหว่างธุรกิจเผชิญหัวเลี้ยวหัวต่อ คู่สูรย์ รัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด(มหาชน)หรือ TKN ได้เล่าแผนการทำงานเชิงรุก เพื่อกอบกู้ยอดขายให้ฟื้นตัว รวมทั้งหาโอกาสใหม่ๆ สร้างการเติบโตให้บริษัท

คู่ศูนย์ ฉายภาพ สถานการณ์ตลาดในประเทศต้องรับมือกับขนมขบเคี้ยวหรือสแน็คประเภท สาหร่าย หดตัว เพราะปีที่ผ่านมา โควิดทำให้กระทบการบริโภคในประเทศส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนตลาดพึ่งพากำลังซื้อ ซื้อเป็นของฝากจากบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนหายไปเหลือศูนย์การหดตัวจึงรุนแรง แต่ไม่ได้เกิดกับตลาดสาหร่ายเท่านั้น เพราะปลาเส้น ปลาหมึก อยู่ในวิบากกรรมเดียวกัน

ส่วน 1 เดือนผ่านไป การอ่านเกมตลาดสาหร่ายจะฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน ยังยากจะประเมิน โดยเฉพาะประเทศจีน เพราะช่วงตรุษจีนเป็นเวลาที่ตลาดชะลอตัวมากสุด ส่วนในประเทศ บริษัทวางหมากรบ เชิงรุก” เต็มที่ เพื่อทำให้ตลาดกลับมาเติบโต การบริโภคคึกคักอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้าใหม่ในกลุ่มสาหร่าย ที่ร่วมมือกับแบรนด์สินค้าอื่นหรือโค-แบรนด์ ขยายฐานผู้บริโภคใหม่ๆ อีกทั้งอัตราการบริโภคสาหร่ายของคนไทยยังต่ำ จึงมีช่องว่างให้โตต่อ รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่ม จึงเตรียมส่งเครื่องดื่มใหม่เจาะตลาดปลายปี จากเดิมมีเพียงจัสท์ดริ้งค์ชานมไต้หวันเป็นหัวหอก ที่สร้างกระแสและผลตอบรับจากผู้บริโภคค่อนข้างดี

ตลาดในประเทศจะโฟกัสออกสินค้าใหม่ มีกิจกรรมการตลาดมากขึ้น น่าจะส่งเสริมให้เกิดการเติบโตได้ จากปีก่อนเราแทบไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย

ส่วนตลาดต่างประเทศยังเชื่อว่าจีนและสหรัฐยังมีศักยภาพในการเติบโต แม้ว่าขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังหนักสุด แต่หากสถานการณ์คลี่คลาย มีสัญญาณผู้ติดเชื้อลดลง เชื่อว่าจะเห็นตลาดกลับมาเป็นบวกได้ จากการมองโอกาสดังกล่าว ทำให้บริษัทเข้าไปลงทุนซื้อกิจการโรงงานสาหร่ายในสหรัฐ และสร้างทีมงานทำการตลาด

เราตั้งใจรรุกหนักตลาดสาหร่ายในสหรัฐ ส่วนตลาดขยายตัวได้เร็วแค่ไหน ต้องดูเป็นสเต็ปไป

เดินเกมการตลาดเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ แต่ในฝั่งองค์กรบริษัทให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการเข้มข้นขึ้น พิจารณาความเสี่ยงใหม่ทั้งงหมด บริหารจัดการคำสั่งซื้อสินค้า(ออเดอร์) บริหารเงินสดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่การขยาายตลาดใหม่ หากูรูตลาดแต่ละประเทศเพื่อเสริมทัพ เพราะการต่อสู้ในต่างแดนเจ้าถิ่นย่อมรู้เขารู้เราดีกว่าเถ้าแก่น้อยลุยเองทั้งหมด

ปีก่อนโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค่อนข้างหนัก ผู้ประกอบการแทบไม่มีใครวางแผนรับมือเรื่องนี้มาก่อน พอเกิดไวรัสระบาด บริษัทต้องแก้ไขตามสถานการณ์ และปีนี้เรามุ่งบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลับมารีวิวองค์กร ความเสี่ยง กระแสเงินสด ออเดอร์ฯ และคาดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน

ติดอาวุธการตลาด รีวิวองค์กรให้แกร่ง จะสยบข่าวลือได้หรือไม่ คู่ศูนย์ ย้ำว่า ข่าวที่ออกมา บริษัทก็เซอร์ไพรส์เช่นกัน ว่าอยู่ดีๆมีข่าวออกมาได้อย่างไร ส่วนมิติการทำธุรกิจและมี พันธมิตร” ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมาร่วมทุนสร้างการเติบโตในอนาคต แต่คำว่า พันธมิตร จะต้องดูว่าเข้ามารูปแบบใด เช่น การเป็นผู้แทนจำหน่าย ซึ่งบริษัททำงานร่วมกันนับสิบราย หรือการลงงทุนรูปแบบอื่น ล้วนเป็นไปได้ มีการพูดคุยเป็นระยะ แต่สถานะไม่ถึงขั้นข่าวลือ

การมีพันธมิตร จะต้องมีกลยุทธ์ที่ทำให้ชนะทั้งคู่หรือ win-win strategy ช่วยดับเบิ้ลธุรกิจของเถ้าแก่น้อยจริงๆ 

ปี 2567 เถ้าแก่น้อยวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 10,000 ล้านบาท แต่ล่าสุด บริษัทมีการตั้งเป้าที่ท้าทายกว่าเดิม ด้วยยอดขาย 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,000 ล้านบาท ภายใน 10 ปี พร้อมเสริมทัพด้วยแม่ทัพใหม่ดูแลรายได้ หรือ Chief Revenue Officer:CRO เพื่อพุ่งสู่เป้าหมายที่กำหนด