ปตท.สผ.ลุยลงทุน ดันรายได้เติบโต

ปตท.สผ.ลุยลงทุน  ดันรายได้เติบโต

"ปตท.สผ." เล็งลงทุนธุรกิจใหม่-ธุรกิจหลัก เน้นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง รวมทั้งมองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้ เป็น 3.98 แสนบาร์เรลต่อวัน โต 12% จากเดิมคาดดต 6% หลังปิดดีลซื้อโครงการโอมานบล็อก61 ดันวอลุ่มพุ่ง ยันการผลิตก๊าซธรรมชาติในเมียนมาดำเนินการผลิตปกติ

นางสาวอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า บริษัทยังมองโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องการขยายธุรกิจใหม่ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยยังคงโฟกัสในพื้นที่ที่สนใจ คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง พร้อมกันนี้ยังมองหาการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะสมกับกลยุทธ์หลักของบริษัท

ทางด้านแผนงานลงทุน ระยะ 5 ปี (ปี2564-2568) เตรียมเงินลงทุนรวม 23,637 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่า 734,845 ล้านบาท โดยเฉลี่ยปีละ 4,000-5,000 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นปี 2564-2565 ลงทุนโครงการ Oman Block 61 เตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการโครงการจี 1/61 (แหล่ง เอราวัณ) และโครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) , ปี 2566-2567 โครงการ Gas-to-Power ในเมียนมา ลงทุนต่อเนื่องในโมซัมบิก โครงการในมาเลเซีย และปี 2568 โครงการในอัลจีเรีย เพื่อให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน

นางสาวอรชร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทปรับเพิ่มเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมเป็น 3.98 แสนบาร์เรลต่อวัน เติบโต 12% จากปีก่อน หลังเข้าซื้อหุ้น 20% ในแหล่งก๊าซโอมาน(Oman Block 61) ช่วยเพิ่มยอดขายของบริษัทได้ทันที เนื่องจากโครงการนี้มีต้นทุนผลิตค่อนข้างถูก โดยไตรมาส 1 ปีนี้ ปริมาณขายเป็นไปตามเป้า และคาดการณ์ราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ตามความต้องการพลังงานสูงขึ้น

จากเหตุการณ์สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 นั้น ในส่วนโครงการโรงไฟฟ้า Gas-to-Power ในเมียนมา บริษัทได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาให้ดำเนินโครงการนี้แล้ว เป็นโครงการพัฒนาแหล่งก๊าซฯ พร้อมป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า 600 เมกะวัตต์ (MW) โดยเริ่มแรกจะนำก๊าซฯ จากโครงการซอติก้า และโครงการเมียนมา เอ็ม3 มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าในโครงการดังกล่าว ก็ยังคงดำเนินการตามแผน ขั้นตอนต่อไปจะทำเรื่องสัญญาซื้อขายก๊าซและซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าให้กับรัฐบาลเมียนมา อย่างไรก็ตาม บริษัทจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด