ทอท.แตกไลน์ธุรกิจใหม่ เปิดตัวบริษัทลูกกลางปีนี้ ดันไทยฮับส่งออกสินค้า

ทอท.แตกไลน์ธุรกิจใหม่ เปิดตัวบริษัทลูกกลางปีนี้ ดันไทยฮับส่งออกสินค้า

ทอท.เตรียมร่วมทุนเอกชน คลอดบริษัทลูก AOTTO เปิดรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร กลางปีนี้ หวังดันไทยขึ้นฮับส่งออกสินค้าในภูมิภาค มั่นใจตลาดต้องการสูง เป็นโอกาสเพิ่มรายได้ธุรกิจนอนแอโรว์

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในช่วงกลางปีนี้ ทอท.เตรียมเปิดให้บริการบริษัทลูกเพิ่มอีก 1 บริษัท เพื่อดำเนินกิจการศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Certify Hub) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับภาคเอกชนในสัดส่วน ทอท. 49% และเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ 51% ภายใต้ชื่อ AOT Tafa Operator หรือ AOTTO

“ก่อนหน้านี้เราจัดตั้งบริษัทลูกไป 2 บริษัท ในธุรกิจเกี่ยวกับรักษาความปลอดภัย และบริการภาคพื้น ตอนนี้เราจดทะเบียนเพิ่มอีก 1 บริษัท จะให้บริการตรวจสอบสินค้าก่อนส่งออก สินค้าประเภทสินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ อาหาร และยา สินค้าทั้งหมดที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ (Cool Chain)”

สำหรับเป้าหมายของการผลักดันบริษัทลูก ทอท.มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ส่งออกสินค้า เนื่องจากบริษัทลูกดังกล่าว ทอท.ได้ร่วมทุนกับสมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีความต้องการในการใช้บริการอยู่แล้ว อีกทั้งผู้ประกอบการดังกล่าว ยังมีปริมาณการส่งออกจำนวนมากต่อปี

นอกจากนี้ ทอท.ยังต้องการผลักดันให้ศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก เป็นศูนย์กลางการส่งออกของภูมิภาค ด้วยมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (EU) จึงมั่นใจว่าหากมีการเปิดให้บริการ จะได้รับการตอบรับจากผู้ส่งออกสินค้าทั้งไทยและอาเซียนเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากการส่งออกสินค้าที่ได้รับการตรวจสอบจากศูนย์กลางการส่งออกของภูมิภาคของ ทอท.จะสามารถนำเข้าไปยัง EU โดยไม่ต้องตรวจสอบซ้ำ สร้างความสะดวกให้กับผู้ส่งออกอย่างมาก

นายนิตินัย ยังกล่าวด้วยว่า การจัดตั้งบริษัทลูกของ ทอท.ที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการไปแล้ว 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AVSEC และบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ขณะนี้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย ทอท.มีแผนนำบริษัท AVSEC เข้าไปประมูลงานรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานอื่นๆ ขณะทื่ AOTGA ปัจจุบันเปิดบริการที่ตอบสนองกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 รับฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจด้วยบริษัทลูกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพิ่มรายได้ในปี 2564 โดย ทอท.มีเป้าหมายเพิ่มจากรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน ได้แก่ ศูนย์รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (Certify Hub), เมืองการบินสุวรรณภูมิ (Airport City), บริษัทลูก ทอท. และแอพพลิเคชั่น AOT Airports ซึ่งจะมีส่วนช่วยทดแทนรายได้ที่หายไปจากผู้โดยสาร ในอนาคตจะปรับสัดส่วนรายได้เป็น 50% และรายได้จากการบินอีก 50% อีกทั้งจะทำให้ ทอท.มีการให้บริการท่าอากาศยานอย่างครบวงจร