ครม.เห็นชอบขยายเวลายื่นภาษีผ่านเน็ตถึงมิ.ย.นี้

ครม.เห็นชอบขยายเวลายื่นภาษีผ่านเน็ตถึงมิ.ย.นี้

ครม.เห็นชอบการขยายเวลายื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย และมูลค่าเพิ่มที่ยื่นผ่านอินเตอร์เน็ตออกไปถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชน คาดมีสภาพคล่องหมุนเวียน 2.65 แสนล.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 ม.ค.นี้ ได้มีมติเห็นชอบการขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยเหลือประชาชนกว่า 10.3 ล้านราย ที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 และภ.ง.ด.91 และผู้ประกอบการที่ยื่นแบบฯ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายกว่า 5.1 แสนราย ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจกว่า 265,700 ล้านบาท

นายเอกนิติ
นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า
การขยายเวลาการยื่นแบบฯให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการดังกล่าว
เพื่อดูแลและเยียวยาการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยการขยายเวลายื่นแบบฯ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ประชาชนในระบบ ประมาณ 10,600
ล้านบาท และการขยายเวลายื่นแบบฯ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก
ณ ที่จ่าย จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการประมาณ 255,100 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดของการขยายเวลายื่นแบบฯ ดังต่อไปนี้

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี 2563 (แบบภ.ง.ด.90 แบบ ภ.ง.ด.91) ที่ต้องยื่นแบบฯ ภายในวันที่ 31 มี.ค.2564
ให้ขยายเวลาออกไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564เฉพาะแบบที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต

2.ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (แบบ ภ.ง.ด. 1 แบบ ภ.ง.ด. 2 แบบ ภ.ง.ด. 3 แบบ ภ.ง.ด. 53 และ แบบ ภ.ง.ด. 54) ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ
โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือนก.พ.2564 ถึงเดือนมิ.ย.2564 เฉพาะแบบฯ ที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต

3 ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 30 แบบ ภ.พ. 36) ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือนก.พ.2564 ถึงเดือนมิ.ย.2564 เฉพาะแบบฯ
ที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต

“การขยายเวลายื่นแบบฯ ทางอินเทอร์เน็ต เป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมทางภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากที่บ้านหรือ Tax From Home ช่วยลดความแออัดและความเสี่ยงจาก COVID – 19 ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยเพิ่มสภาพคล่องในมือประชาชนและผู้ประกอบการให้มีมากขึ้นและนานขึ้น
โดยไม่ได้กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังต้องบริหารจัดการกระแสเงินสดเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการชำระภาษีที่เลื่อนออกไป”