ครม.อนุมัติ 'คนละครึ่ง' รอบเก็บตก 1.3 ล้านสิทธิ รับเงินช่วยเหลือ 3,500 บาท

ครม.อนุมัติ 'คนละครึ่ง' รอบเก็บตก 1.3 ล้านสิทธิ รับเงินช่วยเหลือ 3,500 บาท

ครม.อนุมัติลงทะเบียนคนละครึ่งรอบใหม่ เก็บตก 1.34 ล้านสิทธิ รับเงินร่วมจ่ายซื้อสินค้า 3,500 บาท

รายงานข่าวจากทำเบียบรัฐบาลระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 ม.ค. 2564 เห็นชอบโครงการการลงทะเบียนโครงการ "คนละครึ่ง" ในส่วนสิทธิ์ที่เหลืออยู่ 1.34 ล้านสิทธิ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

สำหรับการลงทะเบียนรอบเก็บตกครั้งนี้จะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.นี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะได้รับเงินช่วยเหลือในการใช้จ่าย 3,500 บาทต่อราย เพื่อใช้ซื้อสินค้าที่เข้าร่วมโครงการในลักษณะการร่วมจ่ายระหว่างประชาชนและรัฐ ในสัดส่วน 50: 50 ซึ่งประชาชนจะร่วมจ่ายได้ไม่เกินวันละ 150 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ทั้งนี้ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยเพิ่มเติม เกี่ยวกับรายละเอียดการลงทะเบียน "คนละครึ่งเฟส 2" รอบเก็บตก จำนวนรวม 1.34 ล้านสิทธิ มาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเติมในวันพุธที่ 20 มกราคม 2564

โดยการลงทะเบียนรอบเพิ่มเติมนี้ ผู้ที่ถูกตัดสิทธิโครงการคนละครึ่งและโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จากการไม่ใช้สิทธิภายใน 14 วัน สามารถลงทะเบียนได้ โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com  ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. จนกว่าจะครบจำนวน ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับข้อความ SMS แจ้งยืนยันการได้รับสิทธิแล้วจะต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยจึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564

นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 18 มกราคม 2564 เวลา 21.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 13,655,380 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 66,967 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 34,260.9 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 32,760.1 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ

โฆษกกระทรวงการคลังยังขอเน้นย้ำให้ประชาชนและร้านค้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการโดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าจริง เนื่องจากภาครัฐยังติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากตรวจพบจะดำเนินการระงับการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที รวมทั้งจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย