อาณาจักร'อาลีบาบา'ระส่ำ-จีนเปิดสอบผูกขาดตลาด

อาณาจักร'อาลีบาบา'ระส่ำ-จีนเปิดสอบผูกขาดตลาด

อาณาจักร'อาลีบาบา'ระส่ำ-จีนเปิดสอบผูกขาดตลาด พร้อมเรียกผู้บริหารของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา เข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล เพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบทางการเงิน

รัฐบาลจีนเริ่มต้นกระบวนการสอบสวนบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ในข้อกล่าวหาผูกขาดตลาด พร้อมกับเรียกผู้บริหารของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา เข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล เพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบทางการเงิน ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า จีนพุ่งเป้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสองธุรกิจหลักในอาณาจักรอินเทอร์เน็ตของ“แจ็ค หม่า”

ข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของอาลีบาบาร่วงลง 8.2% และยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนปรับตัวร่วงลงในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี(24ธ.ค.)

สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดของรัฐสภาจีนแถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอาลีบาบา โดยไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพียงแต่ระบุว่าหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางและหน่วยงานรับผิดชอบดูแลในด้านการธนาคาร จะเรียกแอนท์ กรุ๊ป เข้าร่วมหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเข้มงวดด้านกฎระเบียบทางการเงิน

ด้านแอนท์ กรุ๊ป แถลงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวผ่านทางบัญชีวีแชททางการของบริษัทว่า บริษัทจะศึกษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด

อาลีบาบา และ เทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของอาลีบาบา กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนที่มองว่าบริษัททั้งสองดำเนินธุรกิจที่ผูกขาดผู้ใช้บริการหลายร้อยล้านคน และมีอิทธิพลแทบทุกด้านในชีวิตประจำวันของผู้คน

แต่ผู้บริหารระดับสูงของจีนยังคงไม่มีการพูดถึงเหตุผลหรือแผนการในการจัดการกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า กฎระเบียบที่ประกาศล่าสุดในเดือนพ.ย. จะทำให้รัฐบาลมีขอบเขตมากขึ้นในการดำเนินการกับผู้ประกอบการเทคโนโลยีอย่างหม่า ที่เพิ่งขยายอาณาจักรของตนเองออกไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนได้เรียกตัวหม่า และผู้บริหารอีก 2 คนของแอนท์ กรุ๊ป เข้าพบ ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนพยายามตรวจสอบแอนท์ กรุ๊ป ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ต่อมาในวันที่ 4 พ.ย. ทางการจีนได้ตัดสินใจระงับการนำหุ้นแอนท์ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนหุ้น H Share ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และระงับการจดทะเบียนหุ้น A Share ในตลาดสตาร์ของจีน โดยอ้างว่าทางบริษัทไม่เข้าเกณฑ์การจดทะเบียนหุ้น

หุ้น H-share เป็นหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจในจีน แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และมีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ส่วนหุ้น A-share เป็นหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน และมีการซื้อขายในรูปสกุลเงินหยวน

การระงับการจดทะเบียนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของแอนท์ กรุ๊ปในการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่สูงถึง 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทำไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะสามารถทำลายสถิติเดิมที่บริษัทซาอุดี อารามโคทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การที่หน่วยงานกำกับดูแลกิจการของจีน สั่งระงับแผนทำไอพีโอ น่าจะเป็นเพราะการที่หม่า วิจารณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบรรดานายธนาคารของประเทศ รวมทั้งกฎการสำรองเงินทุนสำหรับธุรกิจกู้ยืมที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก และความพยายามของรัฐบาลจีนในการเพิ่มกฎเกณฑ์ควบคุมธุรกิจการให้กู้ยืนเงินสำหรับลูกค้ารายย่อยผ่านระบบออนไลน์ เป็นสิ่งที่ทำให้แอนท์ กรุ๊ป มีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะทำไอพีโอ

หม่า วิจารณ์ว่า นายแบงก์ทั้งหลายทำตัวเหมือนโรงรับจำนำ แถมเรียกกฎเกณฑ์ธุรกิจธนาคารโลก ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเงินกองทุน ที่บังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจธนาคารต้องสำรองเงินสดให้ถึงระดับหนึ่ง ว่าเป็นความล้าหลัง

“ลู่ ซุยฉี” อาจารยจากคณะการเงิน มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มีความเห็นว่า คำพูดของหม่า เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางการจีนสั่งระงับการทำไอพีโอครั้งประวัติศาสตร์ของแอนท์ กรุ๊ปนอกเหนือจากความจริงที่ว่า โมเดลธุรกิจของบริษัทนี้ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับของรัฐ ทำให้คู่แข่งที่เป็นธนาคารทั้งหลายเสียเปรียบอย่างมาก

ปัจจุบัน แอพพลิเคชันอาลีเพย์ ของแอนท์ กรุ๊ป มีผู้ใช้งานประมาณ 731 ล้านคนต่อเดือน และรองรับการจ่ายเงินออนไลน์มูลค่ารวมกันประมาณ 17 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี อีกทั้งในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำรายได้ไปแล้วราว 17,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 43% จากปีที่แล้ว