ปรับลง แรงกดดันจาก COVID-19 ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น

ปรับลง แรงกดดันจาก COVID-19 ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น

ปัจจัยทั้งต่างประเทศและปัจจัยในประเทศเป็นลบมากขึ้น น่าจะกดดันให้ SET Index ถอยกลับลงมาในระดับหนึ่ง

มุมมอง SET Index: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ วันพุธปรับลดลง... หลังจากเมื่อวานนี้  ตลาดหุ้นไทยเทรดผันผวนตลอดทั้งวัน ในช่วงเช้ามีช่วงย่อไปแถวๆ ระดับ downside level ที่เราประเมินไว้ที่ 1,390 จุด ก่อนรีบาวด์ค่อนข้างแรง และนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิอยู่... แต่สำหรับวันนี้ปัจจัยทั้งต่างประเทศและปัจจัยในประเทศเป็นลบมากขึ้น น่าจะกดดันให้ SET Index ถอยกลับลงมาในระดับหนึ่ง

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบเล็กน้อย: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยแม้ว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์ฯ ไปแล้ว แต่ข่าวดังกล่าวถูกหักล้างโดยปัจจัยลบจากความกังวลต่อการกลายพันธ์ุของไวรัส COVID-19 หลังจากอดีตหัวหน้า FDA
แถลงว่าไวรัสที่กลายพันธ์ุดังกล่าวน่าจะเข้าไปในสหรัฐฯ แล้ว และสร้างความท้าทายว่าการฉีดวัคซีน COVID-19 จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อได้หรือไม่... และล่าสุดเมื่อเช้านี้ มีปัจจัยลบเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจาก ปธน. ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่าอาจไม่ลงนามในมาตรการกระตุ้นฯ ดังกล่าว เนื่องจากมีการแจกเงินให้กับประชาชนในจำนวนน้อยเกินไป

ปัจจัยในประเทศ - เป็นลบ: สถานการณ์ติดเชื้อฯ ภายในประเทศยังคงแย่ลง จนถึงเมื่อคืนนี้การติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครได้ลุกลามไป 16 จังหวัดแล้ว และล่าสุด จ.สมุทรปราการ (ซึ่งมีมูลค่าเศรษฐกิจมากกว่า 7 แสนล้านบาท อันดับ 3 ของจังหวัดในไทย) ประกาศล็อกดาวน์บางส่วน และจ.สมุทรสงครามประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ น่าจะส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในประเทศ... ด้านการประชุม กนง. ในวันนี้ น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยนโยบายแต่ทางเรามองว่าความจำเป็นของการลดดอกเบี้ยมีเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 1/2564 จากความเสี่ยงของการติดเชื้อ COVID-19 รอบใหม่

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพืนฐาน 

เก็งกำไร SCGP*, EPG*

- SCGP* (เป้า Consensus 45.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 41 บาท / แนวต้าน 44 บาท (Stop loss 40 บาท) ... แนะนำ "เก็งกำไรแนวรับ" 2) ประเมินรับ Sentiment บวก จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ E-commerce และการขนส่งอาหาร ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 3) Consensus ประเมินกำไรปีหน้าโต +27% YoY ... คาดยังมี Upside จากการซื้อกิจการเพิ่มเติมได้อีกหลังจากที่ล่าสุดปิดดีลธุรกิจที่เวียดนาม ... และ PE ปี 2564 จะลดลงเหลือ 22.3 เท่า จากปีนี้ที่ 26.1 เท่า

- EPG* (เป้า Consensus 7.06 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.75 - 6.9 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดย EPG มีธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น (Aeroflex) สัดส่วนรายได้ราว 1/3 ของบริษัทฯ 3) ประเมินผลการ
ดำเนินงานของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย 4) Consensus คาดกำไรปี 2563/64 (ปิดงบ มี.ค.) เติบโต +21.5% YoY และ PE ปี 2563/64 (ปิดงบ มี.ค.) คาดจะลดลงเป็น 17.3 เท่า จาก 20.6 เท่าในปีนี้

หุ้นมีข่าว

(+) EA* จุดพลุยานยนต์ไฟฟ้า เปิดบริการเรือเจ้าพระยา (กรุงเทพธุรกิจ) EA* นำร่องเปิดให้บริการเรือไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ววันนี้ ใช้บริการฟรีถึงก.พ.2564 หวังช่วยลดมลพิษและเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์

(EA*) เปิดเผยว่าวานนี้ (22 ธ.ค.) กระทรวงคมนาคมและกรมเจ้าท่าได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นเรือไฟฟ้าที่กลุ่ม EA* ออกแบบและสร้างขึ้น

(+) BCP* ทุ่มธุรกิจไฟฟ้าสุดตัว (ไทยโพสต์) ลั่น 64 เทงบลงทุน 2.3 หมื่นล. กลั่นผลิตภัณฑ์ใหม่แทนน้ำมัน BCP* เบนเข็มลุยธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก โชว์งบลงทุนรวมปี 64 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท หวังโกยกำไร อีบิทดาแตะ 1 หมื่นล้าน พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ขายทดแทนการใช้น้ำมันที่ลดลง

(+) EPG* ครึ่งหลังสวย ยานยนต์-EPP รุ่ง (ข่าวหุ้น) EPG* คาดแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังแจ่ม! รับแรงหนุนยอดขายกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ “Aeroklas” เติบโตดี บวกกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก (EPP) รุ่ง รับกระแสความนิยมสั่งอาหารเดลิเวอรี่ มั่นใจอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 28-30%

(+) EASTW-TOP* ลงนามสัญญาซื้อ-ขายนํ้ารองรับดีมานด์เพิ่ม (ทันหุ้น) EASTW และ TOP* ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการขยายเขตจ่ายน้ำ และลงนามสัญญาซื้อขายน้ำครอบคลุมพื้นที่ โครงการพลังงานสะอาด อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และรองรับความต้องการใช้น้ำของโครงการอื่นๆ ของ
กลุ่มไทยออยล์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(+) ECF ลุยขายหุ้น SAFE 33.37% มูลค่า 233.88 ล้านตุนเงินทุน (ข่าวหุ้น) บอร์ด ECF อนุมัติขายหุ้น “SAFE” สัดส่วน 33.37% ให้กับ “ไพร์ซ ออฟ วู้ด โฮลดิ้ง” คิดเป็นมูลค่าราคาขาย 233.88 ล้านบาทคาดกระบวนการแล้วเสร็จภายใน 30 ธ.ค.นี้  หวังช่วงเสริมสภาพคล่องทางการเงิน