บรรยากาศเก็งกำไรโดยรวมยังเป็นในเชิงบวก แต่เน้นเลือกหุ้นรายตัวในการเก็งกำไร

บรรยากาศเก็งกำไรโดยรวมยังเป็นในเชิงบวก แต่เน้นเลือกหุ้นรายตัวในการเก็งกำไร

ภาพรวมฝั่งสหรัฐฯ มีทั้งปัจจัยบวกและลบ

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จิตวิทยาการลงทุนฝั่งสหรัฐฯ ค่อนข้างเป็นบวก เนื่องจาก 1) องค์การอาหารและยา (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนของ Pfizer และ BioNTech ได้เป็นกรณีฉุกเฉิน และเริ่มมีการขนส่งวัคซีนรอบแรก เพื่อเตรียมกระจายไปทั่วประเทศ โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือบุคลากรทางการแพทย์ และ 2) ความหวังเกี่ยวกับการเจรจาร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ที่จะเจรจารอบใหม่สัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามอาจมีประเด็นที่ทำให้ตลาดผันผวนได้จาก 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 17 ธ.ค. แม้เฟดอาจยืนยันการผ่อนคลาย แต่อาจมีนโยบายกดผลตอบแทนพันธบัตร และ 2) การเข้าคำนวณ S&P500 ของ Tesla ที่อาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมจากการปรับลดน้ำหนักหุ้นอื่น เพื่อเตรียมสภาพคล่องไว้เข้าลงทุนเมื่อถึงวันที่ 21 ธ.ค.

จิตวิทยาการลงทุนฝั่งยุโรปโดยรวมยังดูน่ากังวลกว่า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดโดยรวมยังปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ล่าสุด เยอรมันประกาศเพิ่มระดับการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น (Hard Lockdown) มีผลถึงม.ค.64 และเราคาดว่าประเทศในยุโรปส่วนใหญ่จะมีการยกระดับมาตรการควบคุมให้เข้มข้นขึ้นในทิศทางเดียวกัน ขณะที่การเจรจาเรื่องข้อตกลงการค้าของอังกฤษหลังแยกตัวจากสหภาพยุโรป ยังไม่ได้ข้อสรุปและยังเป็นประเด็นรบกวนระยะสั้นต่อตลาดต่อไป

ไม่มีปัจจัยลบที่ชัดเจน ติดตามมาตรการควบคุมค่าเงินของธปท. ภาพรวมการลงทุนช่วงสิ้นปีโดยรวมยังเป็นบวกจากสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามควรจับตามารการควบคุมการไหลเข้าเงินทุนของธปท. แม้ธปท.เพิ่มประกาศยกเลิกแถลงข่าว 9 ธ.ค. ซึ่งจากสัญญาณของการเข้าเก็งค่าเงินบาทผ่านธุรกรรมในตลาดหลักทรัพย์ (เนื่องจากในอนาคต การเข้าซื้อตราสารหนี้ผู้ลงทุนจะถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลตัวตนมากขึ้น) ทำให้ธปท.อาจกลับไปทบทวนและพิจารณามาตรการที่อาจครอบคลุมมาถึงตลาดทุนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ

กลยุทธ์ระยะยาว ยังคงแนะนำทยอยซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากข่าววัคซีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว และผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น อาทิ พลังงาน, ปิโตรฯ, ธนาคาร, ท่องเที่ยว, เดินเรือ

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว อย่างไรก็ตามเม็ดเงินใหม่ควรมองหุ้นที่ยังขึ้นน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มปลอดภัยหรือปันผลสูง ที่คาดจะผันผวนน้อยกว่า และอาจได้รับอานิสงค์หากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (17 ธ.ค.) มีนโยบายที่เน้นควบคุมการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SUPER*, WHAUP*, EASTW*, III*

แนวรับ 1,459 จุด / แนวต้าน : 1,500 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

อังกฤษ-อียู ขยายเส้นตายบรรลุดีลการค้า. นายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ และ นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เห็นพ้องขยายระยะเวลาการเจรจาข้อตกลงการค้า หลังไม่สามารถตกลงกันได้หลังเส้นตายวันที่ 13 ธ.ค.

ECB คงดอกเบี้ยนโยบายพร้อมขยายโครงการ PEPP. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมพร้อมขยายวงเงินซื้อพันธบัตรตามโครงการ PEPP เพิ่มอีก 5 แสนล้านยูโร เป็น 1.85 ล้านล้านยูโร และขยายเวลาการเข้าซื้อออกเป็น มี.ค.2565 จากเดิม มิ.ย.2564

เยอรมนีประกาศใช้มาตรการ lockdown เพิ่มเติม. เช่น ปิดร้านขายสินค้าที่ไม่จำเป็น ร้านทำผมและโรงเรียน เริ่ม 16 ธ.ค. ถึง 10 ม.ค. ปีหน้า

ประเด็นติดตาม: 14 ธ.ค. : EU Industrial Production, OPEC monthly report / 15 ธ.ค. : Chinese Industrial Production, US Industrial Production / 16 ธ.ค. : US Retail Sales, US PMI, เลือกตั้งท้องถิ่น, เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 / 17 ธ.ค. : FOMC meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)