กางแผนอินเด็กซ์ฯ ลุยอีเวนท์ ปี 64 มองเกมธุรกิจสั้น เน้นโอนโปรเจคปั๊มรายได้

กางแผนอินเด็กซ์ฯ ลุยอีเวนท์ ปี 64  มองเกมธุรกิจสั้น เน้นโอนโปรเจคปั๊มรายได้

อินเด็กซ์ ฯ เผยโควิด-19 ฉุดรายได้ปี 63 ดิ่ง 69% เม็ดเงินหายเกือบ 1,000 ล้านบาท แม้ท่ามกลางวิกฤติปรับตัวตลอด ส่วนแผนปีหน้า งัดกลยุทธ์ Creating For Now สร้างสรรค์สิ่งใหม่ มองเกมสั้น ปรับตัวตลอด เพื่อรอดและเติบโต

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีเวนท์อย่างมาก เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถจัดกิจกรรมต่างๆได้เลย ทำให้รายได้หดตัวรุนแรง โดยผลการดำเนินงานของบริษัททั้งปีมีรายได้ 460 ล้านบาท ลดลง 69% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาท โดย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์รายได้ลดลง 37% 2.กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิสลดลง 78.4% และ 3.กลุ่มโอน -โปรเจค ลดลง 45%

ทั้งนี้ ท่ามกลางวิกฤติโควิด บริษัทมีการปรับตัวอย่างมาก และพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อประคององค์กรให้อยู่รอด สร้างรายได้หล่อเลี้ยงบริษัทและพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นบริการพ่นเปรย์ฆ่าเชื้อแบบพรีเมี่ยมแบรนด์ “KILL & KLEAN” ซึ่งผลตอบรับดีมาก ปัจจุบันขยายแฟรนไชส์ 25 ราย กระจายสู่ 6 ประเทศ และทันทีที่มีข่าวพบผู้ติดเชื้อในไทย ทำให้ลูกค้าต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อคลายล็อกดาวน์ บริษัทปรับตัวสร้างไฮบริดจ์อีเวนท์จัดคอนเสิร์ตออฟไลน์ควบคู่ออนไลน์เสิร์ฟคนดู การสร้างโมเดล “คืนปล่อยของ” เพื่อช่วยลูกค้าระบายสินค้าในสต๊อก ทั้งสินค้าไอที เทคโนโลยี ห้องพักโรงแรมฯ เดิมจัดทุกสัปดาห์ เมื่อพบกำลังซื้อกลางเดือนชะลอตัว จึงจัดเดือนละครั้งช่วงสิ้นเดือน การผนึกโรงแรม โรงพยาบาลปั้น “อัญยา เมดิเทค” เจาะตลาดสุขภาพ จะขยายสู่โรงแรม 4 ดาว และลุยตลาดต่างประเทศด้วย รวมถึงการสร้างโปรเจคอีเวนท์ของตัวเอง(Own Project) รุกตลาด เป็นต้น

“ปี 2563 เราทำสิ่งใหม่ค่อนข้างมาก นำความรู้และประสบการณ์มาต่อยอดธุรกิจที่ไม่ใช่อีเวนท์ หรือ Non-event และเป็นโครงการที่เราทำเองจำนวนมาก”

ส่วนแผนธุรกิจปีหน้า ธุรกิจยังเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนสูง(VUCA World)จึงวางกลยุทธ์ “Creating For Now” เป็นการวางแผนธุรกิจระยะสั้น 6 เดือน จากเดิมมองยาว 1 ปี และ 3-5 ปี แต่ยังคงสานเป้าหมายรายได้ทั้งปี

สำหรับปี 2564 อีเวนท์ที่บริษัทสร้างเองจะเป็นพระเอก โดยครึ่งปีแรกมี 4 บิ๊กโปรเจค เช่น Village of illumination at singha park งานประดับไฟใหญ่สุดในเอเชีย บนพื้นที่ 100 ไร่ ในโครงการสิงห์ ปาร์ค เชียงราย งานเมืองโบราณเทศกาลฤดูร้อนยามค่ำคืน และพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนฯ ส่วนงานมาร์เก็ตติ้งเซอร์วิส คาดจะแผ่วลง เพราะลูกค้ายังคงชะลอการจัดอีเวนท์ แม้จะใช้จ่ายแต่ปริมาณเงินลดลง

ขณะที่งานอีเวนท์ในต่างประเทศ ปีนี้เลื่อนไปจัดปลายปีหน้าทั้งหมด เช่น งานที่เมียนมา ส่วนแผนจัดอีเวนท์ในญี่ปุ่น สิงคโปร์ ยังไม่มีความชัดเจน เพราะโควิดยังคงระบาดอยู่

“แผนงานปีหน้า เราคุยกันเป็นปี และใช้สถานการณ์เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเป็นตัวแปร รวมถึงความพร้อมของบริษัท แผนเหล่านี้รองรับความเสี่ยงรอบด้าน ส่วนกลยุทธ์ Creating For Now ถือเป็นการปรับตัวให้อยู่กับโลกปัจจุบันมากขึ้น ไม่แตะอนาคตไกล และเราไม่หยุดความคิดสร้างสรรค์ แต่ครั้งนี้คิดสร้างสรรค์เพื่อแก้โจทย์ธุรกิจของเรา จากแผนงานคาดว่าจะผลักดันรายได้ให้โตแตะ 1,900 ล้านบาท"