จับตาคดีนายกฯ

จับตาคดีนายกฯ

ตลาดหุ้นวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นกว่า 12 จุด โดยดัชนีเกิดแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลังจากที่วันก่อนหน้ามีแรงขายจากการปรับน้้าหนักดัชนี MSCI

ขณะที่ ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ขานรับความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี ตลาดภายในประเทศมีแรงขายบางส่วนในช่วงท้ายตลาด คาดเกิดจากปัจจัยกดดันสำหรับการตัดสินคดีบ้านพักทหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,420.87 จุด +12.56 จุด +0.89% มูลค่าการซื้อขาย 7.84 หมื่นลบ. ต่างชาติ +608.14 บาท TFEX +6,708 สัญญา ตราสารหนี้ -448 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ดัชนีดาวโจนส์ปิด +185.28 จุด +0.63% ขานรับข่าวรมว.คลังสหรัฐ และประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะหารือออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์
+สหรัฐเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนต.ค.
+"ไฟเซอร์-BioNTech" ยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ในยุโรป
+ธปท.เผยดัชนีเชื่อมั่นทางธุรกิจ พ.ย.กระเตื้องขึ้น แนวโน้มดีต่อเนื่อง
+ศบศ.เตรียมพิจารณาโครงการคนละครึ่งเฟส 2-กระตุ้นท่องเที่ยวในวันนี้
+ก.พาณิชย์เล็งฟื้น FTA ไทย-อียู ผลการศึกษาระบุว่าจะช่วยดัน GDP +1.28% ส่งออกไปอียู +2.83% หรือ 2.16 แสนล้าน
+/-ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบกว่า 6 ปีในเดือนพ.ย. สวนทางกับ ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย.
+ ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME สั่ง บสย.เตรียมงบ 1.7 แสนล้านบาท

ปัจจัยลบ

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 79 เซนต์ -1.7% ปิดที่ 44.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปคและชาติพันธมิตรเลื่อนประชุมเนื่องจากมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้้ามัน
-เงินบาทเปิด'ทรงตัว'ที่ 30.25 บาทต่อดอลลาร์ นลท.ระมัดระวังนโยบายควบคุมด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธปท. และต่างชาติทยอยลดสถานะการถือครองตราสารหนี้ไทย
-การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ


แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในกรอบ Sideway โดยมีแรงหนุนขานรับรายงานว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐ และประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนจับตามศาลรธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยปมบ้านพักทหารวันนี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,410-1,430 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 MINT ERW CENTEL AWC CRC BH BDMS
• มาตรการดูแลค่าเงินบาทของ ธปท. KCE HANA DELTA CPF TU
• กพช.ไฟเขียว โรงไฟฟ้าชุมชน ACE PSTC TPCH
• ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นจากลานีญ่า TVO

หุ้นรายงานพิเศษ

          BIZ  ราคาเหมาะสม 3.75 บาท

•ตัวแทนจ้าหน่ายเพียงผู้เดียวของผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องฉายรังสีของ Varian ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 57% ในไทยและบริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัทย่อยในสัดส่วน 65% ในโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ (CAH) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรักษามะเร็ง ในจังหวัดชลบุรี โดยเริ่มให้บริการในเดือน ต.ค. 62

•คาดรายได้ BIZ เติบโตต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า จากเครื่องฉายรังสีในไทยยังไม่เพียงพอ บริษัทมีรายได้รวมเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปีในช่วงปี 60-62 โดยรายได้รวมปี 62 เติบโต 10.4% ต่อปีจากความต้องการยังสูงกว่าการให้บริการมากข้างต้น จึงคาดว่าจะช่วยรองรับให้ BIZ มีรายได้เติบโตในระดับ 5-10% ต่อปีไปได้อีกอย่างน้อย 5 ปี (สมมติฐานส่งมอบเครื่องฉายรังสี 6-8 เครื่องต่อปี) นอกจากนี้ยังมีBacklog ทรงตัวในระดับสูงที่ 1.88 พันล้านบาท โดยมีโครงการใหญ่รอส่งมอบปี 64

•ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการ 3Q63 จะต่้าสุดในปีนี้เนื่องจากไม่มีการส่งมอบเครื่องฉายรังสี และจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 4Q63 เป็นต้นไปและสูงสุดใน 1H64 ที่จะมีการส่งมอบเครื่องฉายรังสีโครงการใหญ่มูลค่า 1 พันล้านบาท มองเป็นจังหวะซื้อสะสม

หุ้นมีข่าว

(-) KSL (Bloomberg Consensus 2.06 บาท) ปิดงบปี 63 มีกำไรสุทธิ 568.7 ล้านบาท ลดลง 23.2% จากปีก่อน รับผลกระทบโควิด-19 ฉุดรายได้รวมวูบ 17% เหลือ 14,021.8 ล้านบาท ส่วนราคาน้ำตาลตลาดโลกเฉลี่ยปี 2564 คาดสูงกว่าปี 2563 หนุนรายได้และกำไรเติบโตได้ดี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IP (Bloomberg Consensus - บาท) ปิดดีลซื้อกิจการ “โมเดิร์น ฟาร์มา” สำเร็จ สยายปีกสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคนแบบครบวงจร การันตียอดขายขั้นต่ำ 200 ล้านบาท/ปี เริ่มรับรู้รายได้วันที่ 27 พ.ย. 63 มั่นใจช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TKN (Bloomberg Consensus 11.96 บาท) ดึงชานมไต้หวัน ทำตลาดในไทย คาดวางจำหน่ายทั่วประเทศ 3 ธันวาคมนี้ มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยมดันยอดขายเติบโต ส่วนปี 2564 คาดผลงานเติบโตต่อ เน้นขยายตลาดในจีน สหรัฐ อินโดนีเซียและเวียดนาม มุ่งเน้นพัฒนาและออกสินค้าใหม่ ส่วนปีนี้ยอมรับรายได้ต่ำกว่าปีก่อน โบรกมองปี 2564 จะเป็นปีทองงบโตโดดเด่นกำไรแตะ 545 ล้านบาท รายได้จีนและสหรัฐหนุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+/-) "เคอรี่ (KEX) ประกาศช่วงราคาหุ้น IPO ที่ 25-28 บาท เตรียมโรดโชว์ให้กับนักลงทุนรายย่อยในวันนี้ (2 ธ.ค.) ผ่านระบบออนไลน์ โบรกเกอร์ชี้เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น VGI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ที่ล่าสุดเพิ่งเข้าคำนวณ MSCI Global Small Cap ขณะที่ผลการดำเนินงานฟื้นกำไรปี 2564 เท่าก่อนโควิด เคาะเป้า 9 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

2 ธ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านค้าวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีกรณีอยู่บ้านพักหลวงหลังเกษียณอายุศบศ.พิจารณาโครงการคนละครึ่งเฟส2 ปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ
ธปท.เผยแพร่รายงานการประชุมกนง.ฉบับย่อประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)

23 ธ.ค. ประชุมกนง.เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

30 ธ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยรายเดือน

ต่างประเทศ

2 ธ.ค. อียู เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค.

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ย. สต็อกน้้ามันรายสัปดาห์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 3 ธ.ค.)

3 ธ.ค. จีนเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.

อียูเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายพ.ย. และยอดค้าปลีกสหรัฐเปิดเผยจ้านวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.

4 ธ.ค. สหรัฐเปิดเผยดุลการค้าเดือนต.ค.และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.

7 ธ.ค. จีนเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ย.

ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.