'คมนาคม'เล็งของบปี 65 ทะลุ 6 แสนล้าน

'คมนาคม'เล็งของบปี 65 ทะลุ 6 แสนล้าน

คมนาคมจ่อชงของบปี 2565 บานปลาย 6.15 แสนล้านบาท พบหนุนโปรเจคแบริเออร์ยางพารา 8 หมื่นล้าน “ศักดิ์สยาม” สั่งจัดลำดับความสำคัญโครงการ เน้นสนองยุทธศาสตร์ชาติ เดินหน้าเช็คดีเทล ก่อนเสนอสำนักงาน 28 ธ.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่า วงเงินคำขอเบื้องต้น จะเป็นวงเงินในส่วนของ 8 ส่วนราชการ และ 5 รัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงฯ รวมอยู่ที่ประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้มอบให้แต่ละหน่วยงานไปจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ เน้นโครงการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นโยบายรัฐบาล และนโยบายกระทรวงคมนาคม

นอกจากนี้ ต้องเป็นโครงการที่มีความต่อเนื่องเชื่อมต่อกับโครงการที่ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้ และควรเป็นโครงการที่ไม่ติดปัญหาเวนคืนที่ดิน ควรจะเป็นโครงการที่ผ่านการเห็นชอบด้านการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อย่างไรก็ดี ภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงฯ จะประชุมเพื่อลงรายละเอียดการเสนอคำของบประมาณฯ ในแต่ละหน่วย ก่อนจะสรุปคำของบประมาณภาพรวมของกระทรวงคมนาคมเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาในวันที่ 28 ธ.ค.2563

“โครงการที่จะเสนอมานั้นต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อมสามารถตอบคำถามได้ในทุกเรื่อง โครงการใดไม่พร้อมไม่ควรเสนอมา อยากให้ใช้ประสบการณ์จากการพิจารณาคำของบประมาณปี 2564 ที่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และโดนตั้งคำถาม แต่หน่วยงานกลับตอบไม่ได้ก็จะถูกตัดงบประมาณ และทำให้เสียโอกาสไป”

สำหรับงบประมาณปี 2564 ขณะนี้ได้ให้ทุกหน่วยงานกลับไปขยับกรอบเวลาการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.2564 จากเดิมที่วางไว้ว่าจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2564 เพราะกระทรวงคมนาคมถือเป็นกระทรวงที่ทำให้เม็ดเงินสามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มาก จึงเร่งรัดให้ทุกโครงการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้แต่ละหน่วยได้ส่งเรื่องขอดำเนินโครงการต่างๆ ในปีงบประมาณ 2564 เสนอมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเกือบครบ 100% โดยตนได้เร่งให้ไปจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ให้แล้วเสร็จอย่างช้าสุดไม่เกินเดือน มี.ค.2564 เพื่อเริ่มเปิดประมูล และเริ่มดำเนินโครงการทันที ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2564 ยังคงตั้งเป้าภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ 100%

สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 อยู่ที่กว่า 90% ซึ่งถือว่าน่าพอใจระดับหนึ่ง โดยเวลานี้เหลือประมาณ 33 สัญญา คาดว่าจะก่อหนี้ผูกพันได้ครบถ้วนภายในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนสาเหตุที่บางโครงการเบิกจ่ายล่าช้านั้น ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องที่ไม่สามารถจัดการเองได้ เช่น โครงการอยู่ในขั้นตอนอุทธรณ์ จึงต้องรอให้เป็นไปตามกระบวนการ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม รวมอยู่ที่ 6.15 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณของหน่วยงานราชการ 4.89 แสนล้านบาท และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 1.26 แสนล้านบาท

โดยหน่วยงานที่เสนอขอมาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. กรมทางหลวง (ทล.) เสนอขอ 3.6 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นงบประมาณที่ใช้ดำเนินโครงการยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน หรือโครงการแบริเออร์ยางพารา ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท 2. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) 7.3 หมื่นล้านบาท 3.การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 6.7 หมื่นล้านบาท 4.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 4.7 หมื่นล้านบาท และ 5.กรมท่าอากาศยาน (ทย.) 2.1 หมื่นล้านบาท

 “เป็นเรื่องปกติที่แต่ละปีหน่วยงานจะตั้งคำของบประมาณในจำนวนที่ค่อนข้างสูงไว้ก่อน เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาปรับลดอีกครั้ง ซึ่งโดยหลักการแล้วสำนักงบประมาณจะพิจารณาจากฐานงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณที่ผ่านมา ส่วนใหญ่หากได้รับเพิ่มก็จะเพิ่มจากฐานเดิมประมาณ 2-5% อีกทั้งจะมีการปรับให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในปีนั้นๆ ด้วยว่า รัฐบาลต้องการผลักดันเน้นด้านใด เช่น การศึกษาโครงการใหม่ การผลักดันระบบราง”