‘ไหหลำ’ จะมาแทนที่ ‘ฮ่องกง’

‘ไหหลำ’ จะมาแทนที่ ‘ฮ่องกง’

เมื่อจีนกำลังเดินหน้าพัฒนา "เกาะไหหลำ" ให้เป็นศูนย์กลางการค้าแทนฮ่องกง รวมถึงดันการท่องเที่ยวสู่ฮาวายแห่งเอเชีย แต่ทำไมแนวทางการเปิดประเทศครั้งนี้จึงประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะเหตุใดทำไมเกาะไหหลำถึงจะแทนที่ฮ่องกงไม่ได้?

ตอนนี้จีนกำลังรุกหนักในการพัฒนาเกาะไหหลำเพื่อจะเป็นศูนย์กลางการค้าแทนฮ่องกงในอนาคต เห็นมีคนไทยเชื้อสายจีนสนใจไปลงทุนกันเหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นเชื้อจีนไหหลำก็คงกระดี๊กระด๊ากันใหญ่ แต่ ดร.โสภณ ฟันธง คงเป็นแค่ฝันเกินเอื้อม

ไหหลำ หรือไห่หนาน เป็นมณฑลหนึ่งของจีนที่มีขนาดเล็กที่สุด ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศ เป็นเกาะๆ หนึ่งและมีเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมายโดยรอบในทะเลจีนใต้ เกาะไหหลำนี้มีช่องแคบฉยงโจวคั่นระหว่างคาบสมุทรเหลย์โจวของมณฑลกวางตุ้งกับเกาะไหหลำ มณฑลนี้มีเมืองเอกชื่อไห่โข่ว และมีเมืองที่กำลังพัฒนากันขนานใหญ่ชื่อซันยา ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเกาะไหหลำนี้

สำหรับการแบ่งเขตการปกครองมณฑลไหหลำ แบ่งเป็น 4 จังหวัด 20 เทศมณฑล 218 ตำบล มีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 35,354 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่ากรุงเทพมหานครของเราประมาณ 23 เท่า หรือใหญ่เกือบ 2 เท่าของ จ.กาญจนบุรี มีจุดที่มีความสูงที่สุดคือ 1,840 เมตร และมีประชากรประมาณ 10 ล้านคน หรือมีความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่ 280 คนต่อตารางกิโลเมตร ในขณะที่กรุงเทพมหานครของเรามีความหนาแน่นสูงถึง 3,800 คนต่อตารางกิโลเมตร มีรายได้ประชาชาติต่อหัวที่ 48,429 หยวน หรือ 225,195 บาทต่อคนต่อปีซึ่งพอๆ กับไทยเลย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีฮ่องกง มีขนาด 1,104 ตารางกิโลเมตร แสดงว่าไหหลำใหญ่กว่าฮ่องกงถึง 32 เท่า แต่ฮ่องกงมีประชากร 7 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับไหหลำทั้งมณฑล และมีความหนาแน่นของประชากรสูงถึงเกือบ 7,000 คนต่อตารางกิโลเมตร หรือเกือบเป็น 2 เท่าของกรุงเทพมหานคร ฮ่องกงมีรายได้ประชาชาติต่อหัวอยู่ที่ 27,200 ดอลลาร์ หรือ 856,800 บาทต่อคนต่อปี หรือเกือบ 4 เท่าของรายได้ประชาชาติต่อหัวของไหหลำและประเทศไทย

อาจกล่าวได้ว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตึกสูงระฟ้า อาคารทันสมัย ตลาดขายของพื้นเมือง ตลาดขายของเก่า วัดวาอาราม หรือแม้แต่แปลงปลูกผัก จากความหลากหลายเหล่านี้จึงทำให้ฮ่องกงมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถพบกับสิ่งที่น่าสนใจและหลากหลาย

โดยเราสามารถแบ่งเขตท่องเที่ยวสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลักๆ ออกเป็น 3 เขต คือ เกาะฮ่องกง ฝั่งเกาลูน เขตนิวเทอร์ริทอรีส์ และหมู่เกาะต่างๆ ไหหลำก็พยายามสร้างความหลากหลายอย่างนี้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ต้องคอยติดตามกันต่อไป

ฮ่องกงได้เปรียบไหหลำหลายขุม เพราะ

1.ฮ่องกงเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก โดยใช้ชื่อในฐานะสมาชิกขององค์การการค้าโลกว่า “Hong Kong, China” ซึ่งเป็นสมาชิกแยกต่างหากจากจีน ฮ่องกงยังเป็นสมาชิกในองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ด้วย คือ APEC, PECC, ADB, WCO, ESCAP รวมทั้งเป็นผู้สังเกตการณ์ใน OECD ด้วย

2.ฮ่องกงดำเนินนโยบายการค้าแบบเสรีและเป็นเมืองท่าเสรี ฮ่องกงจึงไม่มีการจัดเก็บภาษีศุลกากรในการนำเข้าและส่งออก ข้อนี้ไหหลำพยายามที่จะแข่งขันด้วยเป็นอย่างยิ่ง

3.ฮ่องกงมีประเทศคู่ค้าใหญ่ๆ เป็นอันมาก เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฯลฯ แต่ไหหลำที่เป็นแค่มณฑลหนึ่ง โอกาสที่จะมาแทนที่ฮ่องกงจึงยากมาก แม้แต่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ยังเอาฮ่องกงไม่ลง

4.ฮ่องกงเป็นหน่วยงานการค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่เป็นที่ 10 ของโลก เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราใหญ่อันดับ 7 ศูนย์กลางการเงินการธนาคารอันดับที่ 12 และเป็นตลาดค้าทองคำขนาดใหญ่หนึ่งในสี่ของโลก เรื่องนี้ไหหลำคงไปไม่ถึงแน่นอน

5.ฮ่องกงยังเป็นเขตการส่งออกสินค้าจากทั่วโลก อาทิ เสื้อผ้าสำเร็จรูป นาฬิกา ของเล่น เกมคอมพิวเตอร์ เครื่องไฟฟ้า และสินค้าอุตสาหกรรมขนาดเบาอีกหลายชนิด

6.ฮ่องกงมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีเครือข่ายการคมนาคมขนส่งสูงทั้งของรัฐและเอกชน การเดินทางในแต่ละวันของชาวฮ่องกง 90% เป็นการใช้ขนส่งสาธารณะ และทำให้ฮ่องกงเป็นเมืองหนึ่งที่มีขนส่งสาธารณะครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเมืองหนึ่งของโลก แต่เมืองเอกไห่โข่ว และเมืองตากอากาศซันยาที่อยู่ท้ายเกาะใช้เวลาขับรถนานถึงเกือบ 4 ชั่วโมง

7.ฮ่องกงให้แทบทุกประเทศเดินทางเข้าออกได้โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่ 7-180 วัน ข้อนี้ไหหลำก็กำลังเลียนแบบอยู่ แต่จะทาบกันได้หรือในขณะนี้

8.ฮ่องกงยังมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และไม่เป็นประเทศสังคมนิยม การเดินทางท่องเที่ยวจึงเป็นที่นิยมกว่าจีนโดยเฉพาะไหหลำ

9.ฮ่องกงพูดกันได้หลายภาษา ทั้งภาษากวางตุ้ง ภาษาจีนกลาง และภาษาอังกฤษกันทั่วทั้งเกาะ ในขณะที่ไหหลำคงยังล้าหลังกว่ามากในกรณีภาษาอังกฤษ

ในขณะนี้กำลังพัฒนาไหหลำให้เป็น “ประตูสำคัญ” สู่มหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งในทางยุทธศาสตร์ที่ตั้งนั้นเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เพราะมีฮ่องกง หวุงเตา ไฮฟอง สิงคโปร์ มะนิลา อยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ยิ่งกรณีการพัฒนานำร่องให้เป็นเขตการค้าเสรีนั้นหวังจะเป็นนโยบายเปิดประเทศจีนให้กว้างขึ้นและส่งเสริมกระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ แต่โดยที่ไหหลำมีขนาดใหญ่มาก ยากแก่การจัดการ โอกาสความสำเร็จจึงจำกัด

ในด้านการท่องเที่ยว ไหหลำหวังเป็นฮาวายแห่งเอเชีย ในขณะที่ชายหาดสุดลูกหูลูกตายาวนับพันกิโลเมตรของเวียดนาม และเกาะท่องเที่ยวนับพันๆ เกาะของฟิลิปปินส์ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลของไทยที่มีชื่อเสียงยังตั้งอยู่ใกล้ๆ ทั้งภูเก็ต สมุย หัวหิน พัทยา โอกาสที่จีนจะพัฒนาจนคนติดกันมากมายคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็อาจสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศได้บ้าง แต่นักท่องเที่ยวจีนคงหวังจะออกสู่ต่างประเทศที่ค่าครองชีพไม่แพงมากกว่า

ฮ่องกงนั้นเคยมีรายได้ประชาชาติถึงราวหนึ่งในสี่ของจีนเมื่อ 40 ปีก่อน อาจมีสัดส่วนรายได้ประชาชาติเพียง 3% ในปัจจุบัน แต่ก็นับว่ายังมีขนาดมหาศาล ยากที่จีนจะลบฮ่องกงออกไปจากแผนที่โลกได้ งบประมาณที่จีนคุยว่าจะทุ่มลงไปในไหหลำก็ยังจำกัดอยู่ โอกาสแห่งความสำเร็จในการ “เสก” “ฮาวายแห่งเอเชีย” “ฮ่องกงใหม่” “มาเก๊าใหม่” (พร้อมกาสิโน) จึงยังค่อนข้างไกลเกินเอื้อม

การที่นักลงทุนไทยขืนไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์คงเป็นความเสี่ยงเป็นอย่างมากในขณะนี้ แต่ถ้าสำเร็จไทย ฮ่องกง เวียดนามรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านก็คงหนาว แต่จีนในฐานะ “จักรวรรดินิยม” ใหม่ก็คงพร้อมที่จะเข้าครอบครองหรือ Take Over อย่างไม่หยุดยั้ง

ต้องศึกษาให้ถ้วนถี่ก่อนลงทุนในไหหลำ อันตรายจริงๆ

หมายเหตุ : ข้อมูลและข้อความส่วนใหญ่มาจาก Wikipedia สำนักข่าวซินหัวและอื่นๆ