สมาคมท่องเที่ยวจ่อผนึกบินไทย ผุดแพ็คเก็จหนุนต่างชาติเที่ยว

สมาคมท่องเที่ยวจ่อผนึกบินไทย  ผุดแพ็คเก็จหนุนต่างชาติเที่ยว

“ททท.” ถก “สุพัฒนพงศ์” วันนี้ เตรียมผนึกการบินไทยและสมาคมท่องเที่ยวปั้นแพ็คเกจ หนุนค่าใช้จ่ายพานักท่องเที่ยวกลุ่มวีซ่าพิเศษเที่ยวไทย เล็งปลดล็อกเงื่อนไข “เราเที่ยวด้วยกัน” ดันยอดจองห้องพักโรงแรมครบโควตา 5 ล้านคืน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วันนี้ (30 ต.ค.) จะเข้าหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมภาคท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นการเดินทางทั้งตลาดในและต่างประเทศ รวม 3 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1ททท.จะร่วมกับการบินไทย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) จัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยว 3 แพ็คเกจ ครอบคลุมแบบวันเดย์ทริป เดินทางโดยรถยนต์ และเดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังครบกำหนดกักตัว 14 วันในไทยให้กระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งทาง ททท.จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย ส่วนจะสนับสนุนในสัดส่วนเท่าไรนั้น ยังต้องหารือกันเพิ่มเติม

ทั้งนี้พอมีประเด็นหญิงชาวฝรั่งเศสในสมุยติดโควิด กับกรณีความไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของคนในพื้นที่ภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มวีซ่าประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA : STV)ทุกเที่ยวบินต้องลงสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด และเข้าพักกักตัวในโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือกของรัฐ (Alternative State Quarantine : ASQ)ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้นในช่วงนี้ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ เมื่อกักตัวครบ 14 วัน นักท่องเที่ยวถึงจะสามารถกระจายการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในไทยได้

“ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ากักตัวในโรงแรมALSQต่างจังหวัด ยังต้องรอความพร้อม การยอมรับของคนในพื้นที่ และดีมานด์ของเที่ยวบินตรงสู่เมืองท่องเที่ยวนั้นๆ ในระยะถัดไป”

ปลดล็อกเงื่อนไข“เราเที่ยวด้วยกัน”

สำหรับเรื่องที่ 2 การปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นกระแสการเดินทางและยอดการใช้สิทธิ์จองห้องพักให้ถึงเป้าหมาย 5 ล้านคืน โดยเงื่อนไขใหม่ที่จะหารือกันเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.ให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรสามารถเข้าร่วมโครงการฯได้ ไม่จำกัดเฉพาะโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการเท่านั้น

2.ผู้ลงทะเบียนสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดที่รัฐช่วยจ่าย 40%ของมูลค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ผู้โดยสารในขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบินได้เลย เหมือนกับขั้นตอนการจองห้องพักที่เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ต้องยื่นเรื่องขอคืนเงินภายหลัง เพื่อเพิ่มความสะดวกและกระแสการเดินทาง ช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินให้อยู่ได้ เพราะปัจจุบันมีจำนวนสิทธิ์ตั๋วเครื่องบินที่ถูกใช้แล้วเพียง 1 แสนกว่าสิทธิ์เท่านั้น คิดเป็นมูลค่าที่รัฐช่วยจ่ายไปแล้ว 203 ล้านบาท จากโควตาตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านสิทธิ์ ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการค้างคืน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ แต่ต้องไม่ใช่การจองเที่ยวบินแบบเดย์ทริปหรือเดินทางไปกลับภายในวันเดียว

3.เพิ่มแพ็คเกจทัวร์มาเสนอขายผ่านโครงการฯ โดยทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ได้ผลักดันโครงการย่อย “ชวนผู้สูงวัย เที่ยววันธรรมดาผ่านทัวร์” ใช้งบฯของโครงการเราเที่ยวด้วยกันซึ่งปัจจุบันเหลืองบฯราว 1 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ด้านสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ซึ่งเป็นสมาคมบริษัททัวร์พาคนไทยเที่ยวต่างประเทศ เสนอต่อ ททท.ว่าจะขอทำแพ็คเกจทัวร์ขายผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ททท.จึงให้แนวทางว่าต้องทำแพ็คเกจทัวร์ราคาสูง เพื่อขายกลุ่มไฮเอนด์ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ในช่วงนี้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขรัฐช่วยจ่าย40%

4.เพิ่มการเสนอขาย “กิฟต์วอยเชอร์” ของโรงแรมแก่ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ภายใต้เงื่อนไขรัฐช่วยจ่าย 40%เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าบริการอื่นๆ ในโรงแรมเพิ่มเติม เช่น สปา ร้านอาหาร โดยทางนายสุพัฒนพงษ์รองนายกฯได้สั่งการให้ ททท.ศึกษาความเป็นไปได้ในส่วนนี้ทั้งนี้ตัวกิฟต์วอยเชอร์จะเป็นคนละส่วนกับ “อี-วอยเชอร์” ที่มอบให้ผู้ใช้สิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังซึ่งรัฐจะช่วยจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยวสูงสุดมูลค่า 900 บาทต่อวัน และ 5.ปรับวิธีการและลดขั้นตอนการใช้สิทธิ์โครงการฯให้ง่ายขึ้น

ผนึก“ทีเส็บ”ดันประชุมสัมมนารัฐ

ส่วนเรื่องที่ 3 ททท.จะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนิทรรศการ (ทีเส็บ)ออกแพ็คเกจใหม่สนับสนุนการจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ โดยทั้ง 3 เรื่องหลักดังกล่าว ทางศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ.ขอให้เร่งนำเสนอหลักการในที่ประชุมวันที่ 2 พ.ย.นี้ หากได้รับการเห็นชอบ คาดเริ่มได้เร็วที่สุดวันที่ 15 พ.ย.นี้

"สทน." ชงชวนสูงวัยเที่ยววันธรรมดา

นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ชวนผู้สูงวัยเที่ยววันธรรมดาผ่านทัวร์” ที่ สทน.เสนอ ได้กำหนดรายละเอียดดังนี้ 1.กลุ่มเป้าหมายอายุ 55 ปีขึ้นไป 2.เดินทางพักค้างตั้งแต่วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดีอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน 3.ขอวงเงินสนับสนุนตามหลักเกณฑ์เราเที่ยวด้วยกันที่รัฐช่วยจ่าย 40% 4.เป้าหมายจำนวน 1 ล้านคน 5.วงเงิน 5,000 ล้านบาทจากงบฯโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 6. กรอบระยะเวลาโครงการระหว่างเดือน พ.ย.2563-เม.ย.2564 และ 7.ใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น