เปิดแผน'คุ้มกัน-ล่อหลอก'วัคซีนโควิดบริษัทยาโลก

ขณะที่โลกกำลังรอลุ้นว่าเมื่อใดจะได้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19อย่างเป็นเรื่องเป็นราวนั้น ดูเหมือนว่าในส่วนของการขนส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19 หลังผลิตออกมาแล้วจะมีความสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าคือมีทั้งการคุมเข้มความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เก็บรักษาไว้ในที่ลับ พร้อมติดตั้งระบบติดตามจีพีเอส เพื่อป้องกันการโจรกรรมของเหล่าผู้ร้ายสายแข็งทั้งหลาย

ตอนนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุข โรงพยาบาลและบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลกกำลังเก็บรักษาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 อย่างแน่นหนา เก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย รวมทั้งดำเนินการในขั้นตอนต่างๆเพื่อปกป้องวัคซีนนี้ให้พ้นจากเงื้อมมือภัยคุกคามที่เรียกว่า“หัวโขมย”

บริษัทเวชภัณฑ์ชื่อดังอย่างไฟเซอร์ หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 กำลังติดตั้งซอฟต์แวร์จีพีเอสเพื่อแกะรอยระบบการกระจายสินค้าและใช้กระบวนการขนส่งแบบปลอมๆ เพื่อสร้างความสับสนให้แก่บรรดากลุ่มอาชญากรรมที่มีภาระกิจหลักคือการโจรกรรมวัคซีนประเภทนี้ ส่วนบริษัทกลาสเมกเกอร์ คอร์นนิง อิงค์ กำลังติดตั้งระบบที่ช่วยตรวจสอบยาปลอม ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งที่อยู่ในลิสต์ได้รับวัคซีนเป็นที่แรกก็พยายามยกเครื่องระบบความปลอดภัยในการขนส่งยาหรือวัคซีนต้านโรคโควิดกันอย่างคึกคัก

เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ให้เหตุผลที่ต้องคุ้มกันวัคซีนอย่างแน่นหนาก็เพื่อป้องกันการโจรกรรมยาจากเหล่าโจรที่มีฝีมือขั้นเทพและก่อคดีขโมยยา หน้ากากอนามัย หรือแม้แต่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (พีพีอี)ที่มีราคาแพงมาตลอดในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

“เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เราจะหวาดระแวงว่าจะมีการโจมตีทางไซเบอร์ หรือมีการขโมยยาเราจึงต้องดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันว่าวัคซีนที่ผลิตออกมาจะถูกแจกจ่ายให้ถึงมือผู้ใช้แน่นอน”พอล แมงโก ผู้ช่วยฝ่ายนโยบายจากหน่วยงานให้บริการด้านสุขภาพและการบริการมนุษย์ของสหรัฐ กล่าว

แมงโก กล่าวว่า หน่วยงานให้บริการด้านสุขภาพและการบริการมนุษย์ของสหรัฐ ได้จัดคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันการขนส่งวัคซีนต้านโควิดซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในที่ที่ไม่เปิดเผยรอเวลาให้ทางการอนุมัติให้จัดจำหน่ายหรือแจกจ่ายไปยังเป้าหมายต่างๆได้

แต่ถึงแม้จะมีมาตรการต่างๆที่ค่อนข้างรัดกุมแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ กลับกังวลใจว่า วัคซีนต้านโควิด-19ยังคงอยู่ในฐานะเปราะบางที่จะถูกขโมยได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อมีการขนส่งผ่านระบบห่วงโซ่อุปทานที่อ่อนแอ อย่างศูนย์กระจายสินค้า จุดแวะพักของรถบรรทุกและโรงพยาบาลที่มีระบบความปลอดภัยไม่แน่นหนาพอ

ระบบโรงพยาบาลขนาดใหญ่5แห่งในสหรัฐและอีกหลายรัฐ ระบุว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องให้มีวัคซีนที่เพียงพอกับประชาชนที่ต้องใช้วัคซีนมากกว่า รวมทั้งเก็บวัคซีนไว้ในที่เย็นมากกว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องเก็บวัคซีนไว้ให้พ้นหูพ้นตาขโมย

“พวกเขาไม่อยากยอมรับว่านี่เป็นปัญหา เพราะการทำแบบนั้นจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่พวกเขา”แอนนา นาเกอร์นีย์ จากมหาวิทยาลัยแมสซาจูเสตต์ ซึ่งศึกษาระบบห่วงโซ่อุปทาน กล่าว

ผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา เปิดเผยว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 จากบริษัทยาชั้นนำของโลกอย่าง ไฟเซอร์ โมเดอร์นา อิงค์ และอีกหลายบริษัทกำลังอยู่ในขั้นสุดท้ายของการทดลอง คาดว่าจะได้รับอนุญาตให้แจกจ่ายไปยังที่ต่างๆได้อย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพ.ย. หรือเดือนธ.ค.

สถาบันความปลอดภัยด้านเวชภัณฑ์ ระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การผลิตยาปลอมและการโจรกรรมยาที่มีราคาแพงทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 70% และการโจรกรรมยาจะเกิดขึ้นในช่วงทีมีการแพร่ระบาดของโรค โดยในปี 2552 ตำรวจท้องถิ่นได้จับกุมชายคนหนึ่งได้ที่หน้าโรงเรียนในมิลวอล์คกี ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยวัคซีน H1N1ในปริมาณกว่า 900 โดส ขณะที่การป้องกันวัคซีนต้านโควิด-19 ถูกโจรกรรมนั้นหลายรัฐและผู้ผลิตยาหลายบริษัท รวมทั้งรัฐบาลกลางของสหรัฐเห็นพ้องต้องกันว่าจะขนส่งวัคซีนไปยังโรงพยาบาลเป้าหมายโดยตรงและไปยังจุดที่เป็นจุดแจกจ่ายวัคซีนโดยตรง เพื่อลดปัญหาการแวะพักตามรายทางของรถบรรทุกที่ขนส่งวัคซีน

ส่วนในรัฐอิลลินอยส์ คณะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในท้องถิ่นมีแผนดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนด้วยการสต็อกวัคซีนให้เพียงพอกับการใช้ในเวลาสองวัน เพื่อลดการพึ่งพาด้านโลจิสติกส์ให้มากที่สุด