'ก้าวไกล' ตั้งคณะทำงานเกาะติดชุมนุม ซัด 'ประยุทธ์' เล่นสองหน้า

'ก้าวไกล' ตั้งคณะทำงานเกาะติดชุมนุม ซัด 'ประยุทธ์' เล่นสองหน้า

ก้าวไกล ตั้งคณะทำงานเกาะติดชุมนุม ช่วยเหลือม็อบด้านกฎหมาย ซัด 'ประยุทธ์' เล่นสองหน้าแม้เลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน

ที่ประชุมพรรคก้าวไกล ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของเยาวชนคนรุ่นใหม่และประชาชน โดยมีพลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน 

สำหรับคณะทำงานที่พรรคตั้งขึ้นมีด้วยกัน  8 คณะทำงาน ได้แก่ 1.กองอำนวยการ ทำหน้ากำหนดกรอบนโยบายการติดตามการชุมนุมของคณะอื่นๆ 2.คณะทำงานด้านคดีความ มีภารกิจช่วยเหลือด้านกฎหมายต่อผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดี 3.คณะทำงานสังเกตการณ์ชุมนุม มีหน้าที่ลงพื้นที่สังเกตการณ์ชุมนุม 4.คณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริง มีภารกิจสืบสวนสอบสวนและค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม

5.คณะทำงานสื่อสาร มีหน้าที่แถลงและเผยแพร่ข้อมูลและผลการดำเนินงาน 6.คณะทำงานที่ปรึกษาทางกฎหมาย มีภารกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายต่อกองอำนวยการอื่นและประชาชน 7.คณะทำงานสนับสนุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหน้าที่สนับสนุนการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อสังคมออนไลน์ 8.คณะทำงานกลั่นกรองข้อเท็จจริง มีภารกิจรวบรวมข้อมูลข่าวสารและสนับสนุนการกลั่นกรองข้อเท็จจริง

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นญัตติให้มีการตรวจสอบกรณีความบกพร่องของตำรวจในการควบคุมการชุมนุมเมื่อวันที่14 ต.ค.จนเกิดผลกระทบต่อการจัดเส้นทางขบวนเสด็จฯและการสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุม รวมไปถึงกรณีที่มีการปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชน โดยการสั่งปิด Voice TV ,The Reporter The Standard ,และเพจเยาวชนปลดแอก แม้ว่าศาลแพ่งจะเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแล้วก็ตาม อีกทั้งการที่รัฐบาลมีการใช้กลไกต่างๆ เกณฑ์คนมาใส่เสื้อเหลือง มีประชาชนบางกลุ่มมาทำร้ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา เหตุการณ์เหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องยื่นญัตติดังกล่าว

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว และแสดงว่าจะไม่เข้าไปสลายการชุมนุม เสนอให้ใช้สภาเป็นเวทีหาทางออกให้บ้านเมือง รวมทั้งมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่ใช่เป็นการถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมด โดยนายกรัฐมนตรียังสามารถประกาศได้ทุกเมื่อ จึงตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลังเล่นสองหน้าอยู่ คือด้านหนึ่งทำเหมือนว่าจะรับฟัง ลดอุณหภูมิทางการเมือง แต่อีกด้านหนึ่งคือการระดมคนมา ปลุกปั่นให้เกิดความเกลีดชังกันระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกัน ส่งผลให้มีมวลชนปะทะกันดังกรณีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งมีคนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าแกนนำที่มาทำร้ายนักศึกษาได้ไปเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ สิ่งเหล่านี้นายกรัฐมนตรีต้องทำการตรวจสอบโดยทันที และจำเป็นต้องตั้งข้อสังเกตไว้ตรงนี้ว่า นากยกรัฐมนตรีกำลังเล่นละคร เพื่อจะใช้กำลังมาจัดการประชาชนผู้ชุมนุมในภายหลังหรือไม่ อีกทั้งในสถานการณ์เช่นนี้หน้าที่ของรัฐบาล จะแสดงจุดยืนอย่างไร