รีบาวด์จำกัด

รีบาวด์จำกัด

เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ รีบาวด์จำกัด แนวต้าน 1308 / 1312 จุด แนวรับ 1288 / 1280 จุด ทางเทคนิค ทิศทางดัชนีฯ อยู่ในรูปแบบลงสลับรีบาวด์ (ทิศทางใหญ่เป็นขาลง โดยมีเป้าหมายที่ 1250 จุด) ปัจจัยบวก คือ รายงานภาคการผลิตและบริการที่ดีขึ้นของสหรัฐฯ และการคลายกังวลต่อการระบาดของไทย หลังผลทดสอบไม่พบเชื้อ COVID-19 จากผู้สัมผัสหญิงจากจังหวัดเลย ในสัปดาห์ก่อน

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

        1) ภาคการผลิตและบริการเดือน ส.ค. สหรัฐฯ ดีขึ้น ทำสถิติสูงสุดรอบหลายปี แต่ญี่ปุ่น EU แย่ลง สะท้อนการฟื้นตัวแต่ละประเทศแตกต่างกัน (+กลุ่มอิงการค้าสหรัฐฯ)

        2) สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีฯ ไทยร่วง 2.09% WoW จากแรงขายต่างชาติต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 กว่า 5.5 พันล้านบาท และกองทุนในประเทศกลับมาขายสุทธิ 4 พันล้านบาท

        3) ผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของบจ. สัปดาห์นี้ มีผลต่อดัชนีฯ -2.45 จุด และมีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.21 จุด

        4) ลุ้นดุลการค้าไทยเดือน ก.ค. คาดยังคงเกินดุล (+ค่าเงินบาทแข็งค่า)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

USA-การประชุมพรรครีพับลิกันที่รัฐแคโรไลนาในวันที่ 24-27 ส.ค. / Thailand-ดุลการค้าเดือน ก.ค. คาดเกินดุล +USD1.17bn ส่งออก -17.8% YoY นาเข้า -23.2% YoY (Vs เดือน มิ.ย. เกินดุล +USD1.61bn ส่งออก -23.17% YoY นาเข้า -18.05% YoY)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของวันในช่วงเปิดตลาดที่ 1307.64 จุด +10.85 จุด ก่อนปรับลดลงในช่วงที่เหลือของการซื้อขาย มาปิดที่ 1299.26 จุด +2.47 จุด +0.19% วอลุ่มลดลงเป็น 4.2 หมื่นล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.8% ขนส่งและสาธารณูปโภค +1.6% การแพทย์ (โรงพยาบาล) +1.36% โดยมีหุ้นบวก >4% JMART JMT CKP SYNEX SINGER DOHOME CENTEL MAKRO CHAYO VCOM AS DDD TACC ส่วนหุ้นร่วง >4% GPSC NER ETC BCPG IIG BCP PSL

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงต่อ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +0.69% S&P500 +0.34% Nasdaq +0.42% โดยที่ตลาดหุ้น S&P และ Nasdaq ทำสถิติปิดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เป็นผลจากรายงานภาคการผลิตและบริการรวมเดือน ส.ค. สูงสุดรอบ 18 เดือน (54.7 Vs เดือน ก.ค. 50.3) ยอดขายบ้านเดิมเดือน ก.ค. สูงขึ้น +24.7% MoM สูงสุดตั้งแต่เก็บข้อมูลปี 1963 นำขึ้นโดยกลุ่มเทคโนโลยี +1.2% (Apple +5.15% Tesla +2.4%) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงต่อเนื่อง หลังจาก EU รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน ก.ค. ลดลงและแย่กว่าคาดการณ์ DAX -0.51% CAC40 -0.3% FTSE -0.19%

- น้ำมันดิบร่วงต่อ แต่ทองฟื้นเล็กน้อย: Brent -55 เซนต์ ปิดที่ USD 44.35/บาร์เรล WTI -48 เซนต์ ปิด USD42.34/บาร์เรล วิตกอุปสงค์ลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ถ่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนทองคำฟื้นเล็กน้อย USD0.50 ปิดที่ USD1,947/ออนซ์ หลังร่วงแรง 2 วัน ได้แรงหนุนจากการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+ UK (Markit): รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค. ดีขึ้นและสูงกว่าคาด โดยภาคการผลิตอยู่ที่ 55.3 (Vs คาด 53.8 และเดือน ก.ค. 53.3) และภาคบริการอยู่ที่ 60.1 (Vs คาด 57 และเดือน ก.ค. 56.5) โดยการผลิตเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2014 เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้มีการสะสมสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ส่วนภาคบริการแสดงถึงการเติบโตสูงสุดรอบ 6 ปี

+ USA: ยอดขายบ้านเดิมเดือน ก.ค. สูงสุดรอบ 57 ปี โดยเพิ่มขึ้น 24.7% MoM เป็น 5.86 ล้านหน่วย (Vs คาด +14.7% MoM และเดือน มิ.ย. 20.7%) เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

+/- USA: สภาล่างสหรัฐฯ ผ่านมติ 257 ต่อ 150 เสียง เห็นด้วยต่อการให้ความช่วยเหลือ การไปรษณีย์ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่คาดว่าวุฒิสภาจะยังคงไม่อนุมัติในเร็วๆ นี้ จากการไม่เห็นด้วยของพรรครีพับลิกัน


- Fund Flow: สัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อตลาดหุ้นเอเชีย 6 ชาติ ไม่รวมญี่ปุ่น เป็นสัปดาห์ที่ 2 จานวน +USD1,162mn (Vs สัปดาห์ก่อน +USD1,181mn) โดยยังคงซื้อตลาดหุ้นอินเดียเพียงตลาดเดียว และขายตลาดหุ้นที่เหลือ ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกขายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 (เป็นสัปดาห์ที่ 10 ในรอบ 11 สัปดาห์) จานวน –USD178mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD129mn)

+ SET: FTSE Global Index ประกาศเพิ่มรายชื่อหลักทรัพย์ในรอบ Semi-Annual Review ดังนี้ Large Cap เพิ่ม CRC BGRIM BBL (NVDR) ถอดออก TOP / Mid Cap เพิ่ม TOP CBG ถอดออก BGRIM / Small Cap เพิ่ม MEGA IMPACT JMT ถอดออก CBG โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 18 ก.ย. 2020

+ Oil (PTTEP): คาดสหรัฐฯ มีพายุโซนร้อน 2 ลูก อาจพัดเข้าชายฝั่งเม็กซิโกสัปดาห์นี้ (ลูกแรกชื่อ Laura คาดเข้าอ่าวเม็กซิโกเร็วสุดวันพุธ และอีกลูกชื่อ Marco จะเข้าต่อมาปลายสัปดาห์)

+ USA: หลังการประกาศ Share Split ของ APPLE (1 หุ้นเดิม เป็น 4 หุ้นใหม่) TESLA (1 หุ้นเดิม เป็น 5 หุ้นใหม่) มีผลวันที่ 31 ส.ค. พบว่าราคาหุ้น TESLA พุ่ง 52% / APPLE +27% (สัปดาห์ที่ผ่านมา TESLA +27% WoW / APPLE +8% WoW)

แนะนำ เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: MINT M JWD

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: JMART JMT KCE TU JWD DOHOME CRC CBG

Derivatives: ถือสถานะ Short S50U20 รอทำกำไรตามเป้า (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)