ติดโควิด 10 กลับจาก 5 ประเทศ ตรวจซ้ำทหารกลับจากสหรัฐ

ติดโควิด 10 กลับจาก 5 ประเทศ ตรวจซ้ำทหารกลับจากสหรัฐ

ศบค. พบผู้ติด โควิด-19 รายใหม่ 10 กลับจาก 5 ประเทศ ซูดาน-ปากีสถาน-เยอรมัน-เนเธอร์แลนด์ รวมทั้งทหารไทย 6 นาย กลับจากฝึกในฐานทัพฮาวาย กองทัพตรวจซ้ำทั้งหมด ขณะที่“อนามัยโลก”เลือกไทย-นิวซีแลนด์ ถ่ายทำสารคดีจัดการโควิด

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (24 ก.ค.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 10 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,279 ราย หายป่วยสะสม 3,107 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 114 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่ 1 หญิงไทยอายุ 23 ปี เป็นนักศึกษากลับจากซูดาน เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 21 ก.ค. รายที่ 2 จากปากีสถาน เป็นนักเรียนหญิงไทย อายุ 18 ปี ถึงไทยวันที่ 12 ก.ค.เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ กทม.ตรวจพบเชื้อวันที่ 21 ก.ค.

รายที่ 3 จากเยอรมัน เป็นนักเรียนชายไทยอายุ 18 ปี ถึงไทย 16 ก.ค.เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 22 ก.ค. รายที่ 4 จากเนเธอร์แลนด์ เป็นหญิงไทยอายุ 37 ปี อาชีพค้าขาย ถึงไทย18 ก.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 22 ก.ค.

ส่วนรายที่ 5-10 ทั้งหมดเป็นทหารชายไทย อายุระหว่าง 20-32 ปี กลับจากฝึกทหารที่ฐานทัพฮาวาย เดินทางถึงไทย 22 ก.ค. โดยผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (Pui) ไข้ ไอ มีน้ำมูก ถ่ายเหลว จึงตรวจหาเชื้อวันที่ 22 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ ขณะนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

โฆษก ศบค. ยังระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เลือกประเทศไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศในการถ่ายทำสารคดี โดยอีกประเทศหนึ่งคือนิวซีแลนด์ เป็นสารคดีเกี่ยวกับการจัดการโควิด-19 ซึ่งจะเผยแพร่ไปทั่วโลก ที่เรามีอะไรดีๆ มากมาย คนต่างชาติ องค์กรระหว่างประเทศจะชื่นชมกับเรา ที่สำคัญคือประชาชนที่ให้ความร่วมมือจนถึงทุกวันนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีการชื่นชมผ่านสำนักข่าว Bloomberg จัดอันดับให้ไทยจัดการโควิดได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา จาก 75 ประเทศ โดยอันดับที่ 1 เป็นของไต้หวัน 2.บอตสวานา 3.เกาหลีใต้ 4.ไทย และ 5.จีน ทั้งนี้การจัดอันดับโดยใช้ตัวชี้วัดคือ อัตราผู้เสียชีวิตเปรียบเทียบกับการดำเนินกิจกรรมของประชาชน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนโควิด และการดำเนินนโยบายของภาครัฐ ในการลดความเสียหายที่เกิดขึ้น

ทางด้าน พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) ชี้แจงกรณีทหารไทย 6 นาย ติดเชื้อหลังกลับจากการฝึกที่ฐานทัพฮาวายว่า ในพื้นที่บางแห่งที่ไม่ปลอดเชื้อมี 4 นายแยกไปฝึกในสถานที่เสี่ยง ทำให้เพื่อนอีก 2 นายที่ใกล้ชิดติดไปด้วย แต่ก็ไม่วางใจและจะมีการสอบสวนโรคอย่างละเอียดกับกำลังพลทั้งหมด 

สำหรับทหาร 5 นายที่เหลือ ที่เข้าตรวจหาเชื้อใน รพ.พระมงกุฎเกล้า จะส่งไปกักตัวพื้นที่กักกันโรค State Quarantine ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี โดยในวันที่ 25 ก.ค.63 จะมีการตรวจสวอปทหารทั้งหมดที่กลับจากสหรัฐฯ อีกครั้ง และเมื่อครบการกักตัว 14 วันแล้วจะมีการสวอปอีกครั้งในวันที่ 3 ส.ค.

พล.อ.ณฐพนธ์ ระบุว่า จากนี้ก็เป็นบทเรียนของการส่งทหารไปฝึก ที่แม้จะมีการป้องกันจากต้นทางอย่างดีแล้ว และระหว่างการฝึก ก็ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการ 3 อย่างคือ การสอบสวนโรค การรักษา และการควบคุมโรคในพื้นที่กักกันโรคให้มากขึ้น ทั้งนี้ไม่สามารถยกเลิกการส่งทหารไปฝึกในต่างประเทศได้ เพราะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกองทัพบกไทย-สหรัฐฯ

       วันเดียวกันนี้ ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นที่ จ.ระยองและ กทม.ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ และบทเรียนในการปิด-ไม่ปิดสถานที่ต่างๆ โดยจะปิดต่อเมื่อมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเกิดขึ้นในสถานที่เท่านั้น จะไม่ปิดกรณีเป็นสถานที่ที่พบผู้สัมผัส หรือพบผู้สัมผัสของผู้สัมผัส ซึ่งแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย 

โดยได้ทำหนังสือในนามของเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศแล้ว เพื่อป้องกันการปิดสถานที่เกินความจำเป็น ในช่วงหยุดยาวนี้ ประชาชนคนไทยสามารถไปได้ทุกจุดในประเทศไทย รวมถึง จ.ระยองและกรุงเทพฯ โดยไม่มีการกักกันหรือเฝ้าระวังแล้ว คนไทยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่บนฐานวิถีชีวิตใหม่ด้วยการระมัดระวังและป้องกันตนเองตลอดเวลา