'พลังงาน' รอชงรัฐมนตรีคนใหม่ขยับแผนรับซื้อไฟฟ้า

'พลังงาน' รอชงรัฐมนตรีคนใหม่ขยับแผนรับซื้อไฟฟ้า

‘พลังงาน’รอเสนอรมว.ใหม่ ขยับไทม์ไลน์แผนรับซื้อไฟพลังงานหมุนเวียน550 เมกะวัตต์ ช่วงปี63-64หลังแผนพีดีพีผ่านครม.ล่าช้า โควิด-19 ฉุดความต้องการใช้ไฟชะลอ

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่ากำลังรอความชัดเจนร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) และร่างแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกพ.ศ. 2561 – 2580 (AEDP 2018) จะผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อใด หลังจากแผนดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.2563ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตามร่างแผน AEDP 2018 ได้กำหนดเป้าหมายเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการด้านพลังงานหมุนเวียนในปี 2563 ที่สำคัญ รวม 6 โครงการ ซึ่งสามารถเปิดโครงการไปได้ 1 โครงการเท่านั้น คือ โครงการติดตั้งโซลาร์บนทุ่นลอยน้ำในเขื่อนสิรินธร ขนาด 45 เมกะวัตต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ซึ่งปัจจุบัน ได้ผู้ชนะการประมูลรับเหมาติดตั้ง(EPC) ไปแล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการก่อสร้างโครงการ

และ 2 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ยังไม่ประกาศเปิดโครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ปริมาณ 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้าประเภทโครงการเร่งด่วน (Quick win) ปริมาณ 100 เมกะวัตต์แรกในปีนี้ โดยโครงการฯนี้ ปัจจุบันกระทรวงพลังงานเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว รอเพียงแผน PDP 2018 Rev.1 ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ก็จะสามารถเปิดโครงการฯได้ทันที

และโครงการโซลาร์ภาคประชาชน กำหนดรับซื้อไฟฟ้า 47 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างจัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อปรับหลักเกณฑ์ใหม่ให้ส่งเสริมการลงทุนในแล้วเสร็จภายใน 60 วัน

ส่วนอีก 3 โครงการที่เหลือ ปริมาณรับซื้อไฟฟ้ารวม 550 เมกะวัตต์ คือ โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ , โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 90 เมกะวัตต์ และโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 60 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน ยังไม่ได้กำหนดรูปแบบโครงการฯซึ่งต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ เปลี่ยนไปจากผลกระทบโควิด-19ด้วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงาน ได้ประเมินผลประโยชน์จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว ในปี 2563 จะเกิดเงินทุนหมุนเวียน 2,500 ล้านบาท และ ปี 2564 อีก 41,800 ล้านบาท แต่หากโครงการฯต่างๆล่าช้าออกไป เม็ดเงินลงทุนที่จะส่งผ่านระบบเศรษฐกิจก็คงต้องลดลง ตามทิศทางการลงทุนที่เกิดขึ้นจริงด้วย