เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเดินหน้านิคมฯในอีอีซี

เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเดินหน้านิคมฯในอีอีซี

เอ็กโก กรุ๊ป ฉลุย ผู้ถือหุ้นไฟเขียวแก้วัตถุประสงค์บริษัท เปิดทางลงทุน นิคมอุตสาหกรรม เอ็กโก ระยอง หวังสร้างเติบโตในอนาคต พร้อมเร่งแผนก่อสร้าง 4 โครงการในมือ หลังคลายล็อกดาวน์ มั่นใจ “ซีโอดี” ตามแผนปี 63-65 คาดโควิด-19 ฉุดยอดขายไฟเล็กน้อย

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ของ เอ็กโก กรุ๊ป ว่า เอ็กโก กรุ๊ป ยังดำเนินงานต่อเนื่องตามแผน และจะทบทวนปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 โครงการ คือ โครงการ “น้ำเทิน 1” ในลาวกำหนดดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD) ไตรมาส 2 ปี65 , โครงการ “กังดง” ในเกาหลี กำหนด COD ไตรมาส 4 ปี63 ,โครงการพลังงานลม “หยุนหลิน” ในไต้หวัน และการเข้าถือหุ้นสัดส่วน 44.6% ในบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) เพื่อดำเนินโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนด COD ไตรมาส 4 ปี64

ส่วนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า งานก่อสร้างบางโครงการฯ ก็ได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากแรงงานบางส่วนไม่สามารถเข้ามาดำเนินงานในพื้นที่ได้ตามแผน ขณะที่การจัดส่งวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆก็มีล่าช้าออกไปบ้าง ซึ่งหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว ทางบริษัทฯ ก็ได้ปรับแผนฯการดำเนินงานต่างๆ เพื่อให้โครงการฯ สามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD) ได้ตามแผน ดังนั้น ขณะนี้ ยังมั่นใจว่า โครงการฯต่างๆ จะยังเป็นไปตามแผน

ขณะที่การผลิตไฟฟ้าในประเทศต่างๆ พบว่า โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศต่างๆลดลง แต่โครงการฯส่วนใหญ่ที่บริษัทเข้าไปดำเนินการจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) รองรับ และมีต้นทุนต่ำ จึงไม่สิทธิเลือกสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเป็นอันดับต้นๆ ดังนั้นผลกระทบต่อการขายไฟฟ้าจึงเล็กน้อยเท่านั้น และคาดว่าผลกระทบจะเป็นแค่สถานการณ์ระยะสั้น อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังเพิ่มมาตรการเข้มข้นเพื่อรองรับการกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบ 2 หรือ รอบ3 ในอนาคตด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังอนุมัติการแก้ไขวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อที่ 6 และพร้อมอนุมัติการเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อที่ 6 เพื่อให้บริษัทสามารถเพิ่มโอกาสในการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดทางรองรับกรณีพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าเก่า ที่จ.ระยอง บนพื้นที่ 500 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมในลักษณะ Smart Industrial Estate รองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเป็นพืนที่รองรับนวัตกรรมใหม่ๆ จะมีการทำระบบไฟฟ้าที่เป็นอิสระ เปิดช่องเอ็กโก กรุ๊ป เข้าไปร่วมลงทุนพลังงานใหม่ เช่น ติดแผงโซลาร์ฯใช้ระหว่างโรงงานอุตสาหกรรม ที่เป็นเทรนด์ใหม่ กำลังมาแรง และเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนจำนวนมาก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ก่อนหน้านี้ เอ็กโก กรุ๊ป คาดว่าจะได้รับอนุมัติ EIA ในช่วงกลางปี 63 หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการรื้อถอนโรงไฟฟ้าในพื้นที่ปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็จะหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญมาเข้าร่วมลงทุนด้วย โดยคาดว่าจะได้เริ่มพัฒนาพื้นที่ในอีก 2 ปีหลังจากนั้น