Sideways Down

Sideways Down

แนะนำ ซื้อเก็งกำไร (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1366 / 1370 จุด แนวรับ 1350 / 1340 จุด เนื่องจาก ตลาดยังคงรอรายงานผลกำไรบจ. ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศจำนวนมากในสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยบวก มาจากการคาดว่าสภาสหรัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยลบ มาจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ ที่ยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และปัจจัยในประเทศของไทย ที่รอความชัดเจนของทีมครม. เศรษฐกิจ จำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ที่อาจปรับสูงขึ้น และการชุมนุมเรียกร้องครั้งใหม่ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) ความเสี่ยงในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งการปรับครม. การชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา และการระบาดรอบสองของ COVID-19

       2) สภาสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ วงเงินไม่น้อยกว่า USD1Trn

       3) บจ. สหรัฐฯ ทยอยประกาศงบจำนวนมากสัปดาห์นี้ และที่ผ่านมา 73% รายงานกำไรดีกว่าคาด

      4) ธนาคารไทยทยอยประกาศงบต่อเนื่อง (TISCO รายงานกำไรลดลงตามคาด และ KTC รายงานกำไรต่ำกว่าคาดเพียง -4.95%)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: London-รมว. ตปท. สหรัฐฯ ไมค์ ปอมเปโอ เยือนอังกฤษ 2 วัน, China-Loan Prime Rate 1 ปี และ 5 ปี คาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3.85% และ 4.65% ตามลำดับ, EU-รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค. คาดเกินดุล 14.5 พันล้านยูโร (Vs เดือน เม.ย. 10.2 พันล้านยูโร)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยขึ้นต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยแรลลี่ในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย หนุน ดัชนีฯ ปรับสูงขึ้นมาปิดตลาดที่ 1359.58 จุด +11.72 จุด +0.87% วอลุ่ม 4.13 หมื่นล้านบาท กลุ่มธุรกิจการเกษตรฯ +1.87% พลังงาน +1.3% อาหารและเครื่องดื่ม +1.25% หุ้นขึ้น >4% STGT EA SUPER PTG ASIAN HANA SPRC TACC RBF TIP NEX STI SUN SYNEX AUCT หุ้นร่วง >4% RS CWT

+ ตลาดหุ้นโลกปิดสูงขึ้น ยกเว้น DJIA: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ โดย DJ -0.23% แต่ S&P500 +0.28% Nasdaq +0.28% (ทั้งสัปดาห์ DJIA +2.3% WoW S&P500 +1.25% WoW แต่ Nasdaq -1.08% WoW) หลังจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการร่วงลงของหุ้น Netflix -6.525% หลังรายงานกำไรแย่กว่าคาด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก DAX +0.35% FTSE +0.63% รอลุ้นข่าวดีจากผลประชุมอียูในช่วงสุดสัปดาห์เกี่ยวกับรายละเอียดจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู 7.5แสนล้านยูโร และรายงานผลกำไรบจ. ที่ดีกว่าคาด อาทิ Ericson

- น้ำมันดิบร่วงต่อ แต่ทองฟื้นตัว: WTI -USD0.16 ปิด USD40.59/บาร์เรล Brent -USD0.23 ปิด USD43.14/บาร์เรล (ทั้งสัปดาห์ WTI +0.1% WoW Brent -0.2% WoW) วิตกอุปสงค์น้ำมันโลกชะลอตัว จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ส่วนราคาทองคำร่วงกลับมาฟื้นตัว +USD9.7 ปิดที่ USD1,810/ออนซ์ (ทั้งสัปดาห์ +0.5% WoW) จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Global COVID-19: อิงข้อมูลจาก Worldometers รายงานสรุปผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดรอบ 24 ชม. ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 14.41 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 6.04 แสนราย นาโดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3.83 ล้านราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 6.32 หมื่นราย (วันก่อนหน้า +7.49 หมื่นราย) บราซิล +2.65 หมื่นราย (จาก 3.39 หมื่นราย) อินเดีย +3.74 หมื่นราย (จาก 3.48 หมื่นราย)

+ USA: ผู้นาพรรคเดโมแครต นางโปโลซี่ เผยสภาฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมาย Coronavirus Relief Bill มูลค่าอย่างน้อย USD1.3Trn เพื่อทดแทน Care Acts ที่ช่วยเหลือ USD600/สัปดาห์ต่อผู้ว่างงาน ที่จะหมดอายุสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ผู้นาสภาสูง Mitch McConnell เผยจะเริ่มพิจารณากฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

- ไทย: ศบค. รายงานวันอาทิตย์ (วันที่ 19 ก.ค.) พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย มาจากสิงคโปร์ 2 ราย และซูดาน 1 ราย และอยู่ในสถานกักกัน (Vs วันเสาร์ที่ผ่านมา มีจำนวน 7 ราย) สะสม 3,249 ราย อยู่อันดับที่ 101 ของโลก และไม่มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศต่อเนื่อง 55 วัน นับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. เป็นต้นมา โดยสัปดาห์นี้จะมีการประชุมศบค. เพื่อพิจารณาผ่อนปรนกิจกรรมเฟส 6 ซึ่งคาดว่าจะมีการผ่อนปรน 3-4 รายการ ได้แก่ แรงงานที่ต้องเข้าไทยเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การแสดงสินค้า กองถ่ายภาพยนตร์ และนักท่องเที่ยวบางกลุ่มและต่ออายุพ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยวันจันทร์หรือวันอังคารนี้ ศบค. ชุดเล็ก จะมีการประชุม โดยต้องหารือในรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

+/- ผลประชุมรมว. คลัง ผู้ว่าธนาคารกลางกลุ่ม G-20: ประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผ่านการประชุมทางไกล โดยมีซาอุดิอาระเบียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัว จากภาวะถดถอยที่เกิดจากผลกระทบของ COVID-19 และเรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G-20 ขยายการผ่อนผันหนี้ให้กับบรรดาประเทศยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ทั้งนี้ IMF ระบุว่า เรายังไม่หลุดพ้นปัญหาและเตือนว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความยากจนและความไม่เท่าเทียม และยังมีแนวโน้มที่ COVID-19 จะแพร่ระบาดรอบสอง

- EU: การประชุมผู้นำอียู 3 วันที่ผ่านมา ยังไม่สามารถมีข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากภาวะถดถอย วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (แบ่งเป็นเงินให้เปล่า 5 แสนล้านยูโร และเงินกู้ 2.5 แสนล้านยูโร) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ายังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณประจำปี 2021-27 ของอียูและกองทุนฟื้นฟูฯ (ขัดแย้งเกี่ยวกับเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือ การจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน รวมถึงการอนุมัติกองทุนฯ ที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่าจะต้องได้รับฉันทามติจากสมาชิกทั้ง 27 ชาติของอียู ซึ่งแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของอียูที่ต้องการเพียงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ ตัดสินเท่านั้น)

+ UK: ราคาหุ้น AstraZeneca วันศุกร์ปรับขึ้น 3.88% รับข่าวกองทุนความมั่งคั่งของรัสเซีย เผยว่า ได้ทำข้อตกลงกันเพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด

กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำ ซื้อเก็งกำไร (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CHAYO CPF TISCO

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: AOT BGRIM CBG CRC GULF HMPRO MTC PTT STGT TISCO

Derivatives: ถือสถานะ Long GOU20 เพื่อทำกำไรตามเป้าที่วางไว้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)