KBANK กำไรไตรมาส2/63วูบ78%อยู่ที่2.17 พันล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่ม

KBANK กำไรไตรมาส2/63วูบ78%อยู่ที่2.17 พันล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่ม

KBANK ไตรมาส2/63 กำไรสุทธิ 2.17 พันล้านบาท ลดลง 78.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.9 พันล้านบาท เส่งผลงวด6เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ9.55 พันล้านบาท ลดลง 52.18%จากช่วงเดียวกันปีก่อนเหตุตั้งสำรองเพิ่ม1.69 หมื่นล้านบาท

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส2ปี 2563 ว่า บริษัท มีกำไรสุทธิ 2,175.34 ล้านบาท ลดลง 78.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,928.80 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารและบริษัทย่อยพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มจำนวน 8,320 ล้านบาท หรือ 70.08% จากไตรมาสก่อน ขณะที่รายได้ที่ราไยด้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ลดลง
สำหรับงวดครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 9,550.22 ล้านบาท ลดลง 52.18%จากช่วงเดียวกันจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 19,973.22 ล้านบาท เพราะบริษัทพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss)เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 16,937 ล้านบาท หรือ 111.97%


ณ วันที่ 30 มิ.ย. ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 3,585,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 291,911 ล้านบาท หรือ 8.86% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อ และการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิสำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 มิงย. 2563 อยู่ที่ 3.92% โดยธนาคารได้มีการติดตามให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งควบคุมดูแลคุณภาพสินเชื่อของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19อย่างใกล้เชิด ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 3.65% อัตราส่วนเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตอ่เงินให้สินเชื่อด้วยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563 อยู่ที่ ระดับ 155.68% โดยสิ้นปี 2562 อยู่ที่ 148.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองกทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 30 มิ.ย.อยู่ที่ 18.09% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่15.38%