5 กิจการ คลายล็อกเฟส 5 ไฟเขียวเปิดบริการ 1 ก.ค.

5 กิจการ คลายล็อกเฟส 5 ไฟเขียวเปิดบริการ 1 ก.ค.

เช็ค 5 กิจการ คลายล็อกเฟส 5 ไฟเขียวเปิดบริการ 1 ก.ค.

ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19(ศบค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมในฐานะ ผอ.ศบค. วานนี้(29 มิ.ย.) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการคลายล็อกระยะที่ 5 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป

โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ตามที่ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นผู้เสนอใน 5 กิจการ

1. การใช้อาคารสถานที่ สถาบันการศึกษา หรือ คือการเปิดเรียนทั้งหมด

2. ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตีมอลล์ ให้เปิดปิดการดำเนินงานตามเหมาะสมของพื้นที่ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปเพิ่มเติม คือ ปิดเวลา 22.00 น. ส่วนร้านสะดวกซื้อเปิดได้ 24 ชั่วโมง

3. กลุ่มผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดบริการได้ไม่เกิน 24.00 น. ในทุกกรณี การไปต่อร้านข้าวต้มหลังปิดผับบาร์แล้วไปนั่งดื่มเหล้าต่อไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายเรื่องการอนุญาตการดื่มสุรา ก็ยังอยู่ที่ 24.00 น. 

ทั้งนี้เรื่อง นั่งยืนห่าง 1 เมตร โต๊ะห่าง 2 เมตร หากทำไม่ได้ต้องมีฉากกั้นสูงมากกว่า 1.5 เมตร สำคัญที่สุด คือ การกำกับติดตามตั้งแต่ก่อนเข้า ดังนั้น ต้องได้รับการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นไทยชนะก่อนเข้า ลูกค้าต้องปฏิบัติตามทุกราย

หากไม่เป็นไปตามที่ว่า ขอให้ฝ่ายมั่นคงตรวจเข้ม เพราะมีตัวอย่างต่างประเทศแล้วว่าเป็นจุดเสี่ยงสูงมาก และทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมา และจะเกิดผลกระทบอย่างมาก ทั้งการติดเชื้อ และความมั่นใจในระบบสาธารณสุข และความมั่นคง 

5 กิจการ คลายล็อกเฟส 5 ไฟเขียวเปิดบริการ 1 ก.ค.

“หากไม่เป็นไปตามที่ว่า ขอให้ฝ่ายมั่นคงตรวจเข้ม เพราะมีตัวอย่างต่างประเทศแล้วว่าเป็นจุดเสี่ยงสูงมาก และทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมา และจะเกิดผลกระทบอย่างมาก ทั้งการติดเชื้อ และความมั่นใจในระบบสาธารณสุข และความมั่นคง ผู้ประกอบกิจการกิจกรรม ต้องทำอย่างเข้มงวด หากพบว่าผิดหรือไม่ปฏิบัติตามให้กำหนดบทลงโทษลงไปด้วย ตอนจะเปิดหลายคนบอกอะไรก็ยอม แต่หากเกิดการติดเชื้อที่ใดต้องมีบทลงโทษด้วย ติดเชื้อ 1 คน ต้องรับการรักษาก็เป็นหลักแสนหรือล้านบาท กระบวนการตรวจหาเชื้อก็เป็นพันเป็นหมื่น อย่างต่างประเทศตรวจเป็นหมื่นคน ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกเท่าไร ผู้ประกอบกิจการต้องรับฟังและรับรู้ว่าจะต้องมีส่วนในความรับผิดชอบด้วย”

4.ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต การเปิดให้บริการตามกฎหมาย คือ อายุน้อยกว่า 15 ปี จะต้องให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 14.00-20.00 น./ วันหยุด 10.00-20.00 น., 

ส่วนอายุ 15-18 ปี ให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 14.00-20.00 น./ วันหยุด 10.00-22.00 น. และอายุ มากกว่า 18 ปี ให้บริการได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง จำกัดผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตร/คน เว้นระยะให้บริการในระบบ 2 ชั่วโมง/รอบพักทำความสะอาด 15 นาที

5. สถานประกอบกิจการอาบอบนวด โรงน้ำชา จะต้องมีใบอนุญาตสถานบริการที่ถูกกฎหมาย โดยจะให้ สปม.ตรวจเข้มทุกแห่ง หากพบการติดเชื้อในสถานที่ จะต้องมีบทลงโทษ เคร่งครัดการใช้แอพพลิเคชั่น ไทยชนะ และป้องกันการกรอกข้อมูลเท็จ ต้องสวมหน้ากากอนามัย/อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าตลอดเวลา 

ยกเว้นขณะอาบน้ำ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 กลุ่มพนักงานเป็นระยะ พร้อมการเฝ้าระวังโรคอื่น และที่สำคัญสูงมาก คือ ห้ามมีการขายประเวณี ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย

ประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการ “ผู้พิทักษ์ไทยชนะ เจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจสถานบริการจะต้องมีการลงทะเบียนเ เพื่อลดการแอบอ้าง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบ ขยายกลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทย 6 กลุ่มคือ 1.คู่สมรสและบุตรผู้ที่ได้รับอนุญาตทำงานในราชอาณาจักร  

2.ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร 3.คู่สมรสต่างชาติและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสัญชาติไทย

4.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยและมีผู้ติดตาม

5.นักเรียนนักศึกษาต่างชาติและผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว และ 6.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษกับประเทศเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจและมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค

โควตาที่กำหนดต้องสอดคล้องกับสถานที่พักที่รัฐกำหนด(ASQ)ในขั้นต้นอาจกำหนดจำนวนรวม 200 คนต่อวัน โดยประเทศเป้าหมาย คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีนฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งจะพิจารณาผู้ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการจัดทำข้อตกลง 2 ลักษณะ คือ 

ผู้เดินทางมาแบบธรรมดา ต้องอยู่ในสถานที่ที่รัฐกำหนด 14 วัน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และกลุ่มที่2คือผู้เดินทางมาแบบเร่งด่วนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของไทยเดินทางมาระยะสั้นต่ำกว่า 14 วัน

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ยังได้เสนอ เปิดด่านเพิ่ม 9 จุด ในจังหวัดหนองคาย เลย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย จันทบุรี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี จากเดิมที่เปิดอยู่แล้ว 28 แห่งใน 22 จังหวัด ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้า

นอกจากนั้นขณะที่กระทรวงคมนาคม ยกเว้นข้อกำหนดการเว้นที่นั่งระหว่างบุคคลบนรถโดยสารสาธารณะ แต่ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และความหนาแน่นผู้โดยสาร ต้องไม่เกิน 70%